สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมาที่เมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ชาวมียนมาหลายพันคนออกมาชุมนุมประท้องตามท้องถนนเพื่อแสดงการสนับสนุนกลุ่มนักศึกษาในเขตซานฉง หลังจากเจ้าหน้าที่พยายามสลายการชุมนุม ด้วยปืนและระเบิดแสง พร้อมทั้งประกาศว่า จะไล่ตรวจช็กตามบ้านบ้านเรือน เพื่อตามจับผู้ที่ไม่ใช่ผู้อาศัยของเขตนี้ และจะทำการลงโทษคนให้ที่ซ่อนแก่พวกเขา
ทั้งนี้หลังจาก กองกำลังความมั่นคงเมียนมา ไล่ต้อนผู้ชุมนุมหนุ่มสาวหลายร้อยคน ที่ออกมาชุมนุมในคืนวันจันทร์ที่ 8 มี.ค. 2564 เขตซานฉง โดยไม่สนคำสั่งเคอร์ฟิวของรัฐบาลทหาร รวมทั้งขู่จะตามจับผู้ชุมนุมตามบ้าน
นายสเตฟาน ดูฌาร์ริก โฆษกองค์การสหประชาชาติ เผยว่า นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติหรือยูเอ็นได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เมียนมาอดทนอดกลั้นอย่างที่สุด และขอให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมอย่างปลอดภัยโดยปราศจากความรุนแรงหรือจับกุม ขณะที่สถานทูตสหรัฐฯ กับสหราชอาณาจักรในเมียนมา ก็เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เมียนมา ยอมปล่อยให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนกองทัพเมียนมาจะไม่มีการประนีประนอม โดยบนเฟซบุ๊กของประชาชนและสำนักข่าว MTK โพสต์ข้อความระบุว่า ในช่วงเช้ามืดวันอังคาร 9 มีนาคม มีประชาชนในเขตซานฉงอย่างน้อย 20 คน ถูกจับกุมหลังตำรวจบุกค้นตามบ้าน
ก่อนหน้านี้สถานีโทรทัศน์ MRTV รายงานว่า ความอดทนของรัฐบาลหมดลงแล้ว และในขณะที่พวกเขาพยายามหยุดการจลาจลโดยให้มีการสูญเสียน้อยที่สุด คนส่วนใหญ่กำลังต้องการความมั่นคงอย่างสิ้นเชิง และเรียกร้องให้มีมาตรการจัดการกับการจลาจลอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ชาวเมียนมาออกมาประท้วงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหาร ยึดอำนาจจากรัฐบาลของนาง อองซาน ซูจี เมื่อ 1 กุมภาพันธฺที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตแล้วไม่น้อยกว่า 50 ศพ โดยการประท้วงล่าสุดในวันจันทร์ มีผู้ชุมนุมในภาคเหนือและเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิรวดี เสียชีวิตเพิ่มอีกขึ้นอีก 3 ราย
