.ข้าวเปลือก 5 ชนิดได้ถ้วนหน้าหลังราคาอ้างอิงต่ำกว่าราคาประกัน
.ข้าวเหนียวรับสูงสุดเกือบ 7 หมื่นบาท-ข้าวเจ้ากว่า 5.8 หมื่นบาท
.จ่ายรอบ 2-4 วันที่ 10 พ.ย.นี้ “มัลลิกา” มั่นใจราคาขยับขึ้นได้แน่
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า วันที่ 9 พ.ย.64 เป็นวันแรกที่ธนาคารเพื่อการเกษรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้โอนเงินชดเชยส่วนต่างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวเปลือก ตามโครงการประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวเปลือกปี 64/65 งวดที่ 1 สำหรับเกษตรกรที่แจ้งการเก็บเกี่ยวไว้ก่อนวันที่ 15 ต.ค.64 โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัด
เกษตรจังหวัด และธ.ก.ส.ได้ติดตามการเบิกจ่ายเงิน และอำนวยความสะดวกอย่างใกล้ชิด ซึ่งวดแรกนี้ เนื่องจากราคาข้าวลดลงมาก ชาวนาจึงได้รับส่วนต่างสูง โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ ได้สูงสุดรายละ 57,900.78 บาท, ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ สูงสุด 57,524 บาท, ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี สูงสุด 26,303.25 บาท, ข้าวเปลือกเจ้า 58,038.6 บาท และข้าวเปลือกเหนียว 69,399.52 บาท
“หลังจากนี้ ราคาข้าวน่าจะดีขึ้น เพราะนอกจากจะมีโครงการประกันรายได้แล้ว รัฐบาลยังมีมาตรการคู่ขนานในการดึงราคาข้าวให้สูงขึ้น เช่น หากชาวนาเก็บข้าวในยุ้งฉาง จะได้ค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท ส่วนสหกรณ์และโรงสี ถ้าซื้อข้าวจากชาวนามาเก็บไว้รอการขายในช่วงราคาดี รัฐจะช่วยชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้ 3% เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ขณะที่ผู้ค้าข้าว ถ้าซื้อข้าวมาเก็บไว้ในสต๊อกรอการขาย จะได้ชดเชยดอกเบี้ย 3% รวมถึงมาตรการอื่นๆ ที่ทยอยดำเนินการ”
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 9 พ.ย. กระทรวงพาณิชย์ ยังได้เสนอให้พิจารณาเห็นชอบเกี่ยวกับการใช้เงินเพื่อจ่ายส่วนต่างชดเชยรายได้ให้ชาวนางวดต่อๆ ไปอีก 31 งวดจากทั้งหมด 33 งวด ส่วนงวดที่ 2, 3 และ 4 ธ.ก.ส.น่าจะโอนให้วันที่ 10 พ.ย.64
สำหรับเงินชดเชยส่วนต่างรายได้งวดแรก คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงดครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ที่มีนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธาน ได้มีมติจ่ายให้กับเกษตรกรทุกชนิดข้าว ที่แจ้งวันเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 15 ต.ค.64 เพราะราคาอ้างอิงต่ำกว่าราคาประกัน โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ ชดเชยตันละ 4,135.77 บาท จากราคาประกันตันละ 15,000 บาท, ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ชดเชยตันละ 3,595.25 บาท จากราคาประกันตันละ 14,00 บาท, ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ชดเชยตันละ 1,052.13 บาท จากราคาประกันตันละ 11,000 บาท, ข้าวเปลือกเจ้า ชดเชยตันละ 1,934.62 บาท จากราคาประกันตันละ 10,000 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ชดเชยตันละ 4,337.47 บาท จากราคาประกันตันละ 12,000 บาท
ส่วนงวดที่ 2 จ่ายส่วนต่างให้กับเกษตรกรทุกชนิดข้าว ที่แจ้งวันเก็บเกี่ยว 15-21 ต.ค.64 โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ ชดเชยตันละ 4,130.44 บาท, ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ชดเชยตันละ 3,719.16 บาท, ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ชดเชยตันละ 1,019.07 บาท, ข้าวเปลือกเจ้า ชดเชยตันละ 1,918.69 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ชดเชยตันละ 4,348.79 บาท ขณะที่งวด 3 จ่ายส่วนต่างให้เกษตรกรที่แจ้งเก็บเกี่ยววันที่ 22-28 ต.ค.64 โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ ชดเชยตันละ 4,136.46 บาท, ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ชดเชยตันละ 3,719.16 บาท, ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ชดเชยตันละ 1,044.44 บาท, ข้าวเปลือกเจ้า ชดเชยตันละ 1,969.31 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ชดเชยตันละ 4,394.98 บาท
สำหรับ งวดที่ 4 จ่ายส่วนต่างให้เกษตรกรที่แจ้งเก็บเกี่ยววันที่ 29 ต.ค.-4 พ.ย.64 โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ ชดเชยตันละ 4,213.47 บาท, ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ชดเชยตันละ 3,719.16 บาท, ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ชดเชยตันละ 1,123.76 บาท, ข้าวเปลือกเจ้า ชดเชยตันละ 2,089.91 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ชดเชยตันละ 4,466.59 บาท อย่างไรก็ตาม เกษตรกรสามารถตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง และจะมีข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าบัญชีผ่าน LINE Official BAAC Family กรณีที่ลูกค้าสมัครใช้บริการ BAAC Connect หรือที่เว็บไซต์ https://chongkho.inbaac.com
