Apple Developer Academy ขยายการลงทุนสถาบันสู่บาหลี

Apple Developer Academy แห่งใหม่ของแอปเปิลในบาหลี

Apple ประกาศการเปิด Apple Developer Academy แห่งที่ 4 ในอินโดนีเซียที่บาหลี ขยายการลงทุนเพื่อเพิ่มโอกาสแก่นักพัฒนา นักเรียน และผู้ประกอบการ ที่ต้องการเริ่มต้นเส้นทางอาชีพในระบบเศรษฐกิจของแอป iOS ที่กำลังเติบโตในภูมิภาค

นับตั้งแต่เปิดตัว Apple Developer Academy แห่งแรกในอินโดนีเซียที่จาการ์ตาเมื่อปี 2018 จากนั้น Apple ก็ได้เปิดสถาบันเพิ่มเติมที่สุราบายาและบาตัม โดยมีนักพัฒนาผู้มีความมุ่งมั่นสำเร็จหลักสูตรกว่า 2,000 คน และผู้จบการศึกษาราว 90% ได้รับการว่าจ้างงานที่ดีในหลากหลายสาขา ทั้งภาคการศึกษา อีคอมเมิร์ซ ขนส่ง ความยั่งยืน และอีกมากมาย พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จของสถาบัน

“บ่อยครั้งเราเห็นโค้ดบรรทัดเดียวที่สามารถเปลี่ยนโลกได้ทั้งใบ เราจึงลงทุนด้านความคิดสร้างสรรค์และทักษะของผู้คนในอินโดนีเซียเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นไปได้” Tim Cook ซีอีโอของ Apple กล่าว “เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เห็นการเติบโตของชุมชนนักพัฒนาในอินโดนีเซีย และเตรียมที่จะลงทุนเพิ่มเติมในความสำเร็จของนักเขียนโค้ดเพิ่มมากขึ้นผ่านสถาบันแห่งที่ 4 ในประเทศ”

หลักสูตร 9 เดือนของสถาบันครอบคลุมเนื้อหาตั้งแต่พื้นฐานการเขียนโค้ดไปจนถึงเรื่องการออกแบบ การตลาด และการบริหารจัดการโปรเจ็กต์ ทำให้นักเรียนมีศักยภาพพร้อมทักษะครบถ้วนที่จำเป็นต่อการก้าวขึ้นเป็นผู้ประกอบการและนักพัฒนาระดับโลก และเพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนข้ามวัฒนธรรม วิทยาเขตที่บาหลีจะเปิดรับใบสมัครจากทั่วโลก ไม่เฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในอินโดนีเซีย และไม่มีการตั้งข้อจำกัดด้านประวัติการศึกษาหรือประสบการณ์การเขียนโค้ด

สถาบันสาขาต่างๆ ในอินโดนีเซียยินดีต้อนรับนักเรียนที่มีประวัติและอาชีพการทำงานที่หลากหลาย จนถึงปัจจุบันมีนักเรียนจากกว่า 90 เมืองทั่วอินโดนีเซีย อายุตั้งแต่ 18-50 ปี และต่างก็นำไอเดียและประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ มาใช้ในการออกแบบแอปและสร้างแผนธุรกิจ

Mary Santoso ผู้ก่อตั้ง WonderJack สมัครเรียนที่ Apple Developer Academy ในอินโดนีเซียเมื่อปี 2022 ตอนที่เธออายุ 38 ปี

Mary Santoso สมัครเรียนที่สถาบันเมื่อปี 2022 ตอนที่เธออายุ 38 ปี และได้ก่อตั้ง WonderJack เกม iPad ที่เป็นมิตรต่อความหลากหลายทางสมอง ช่วยฝึกฝนทักษะสมองส่วนหน้าและกระบวนการทางจิตให้แก่เด็ก แอป iPad นี้ได้แรงบันดาลใจมาจากประสบการณ์ตรงที่สมาชิกในครอบครัวของเธอมีภาวะผิดปกติทางการอ่านและการเรียนรู้ภาษา ดังนั้นจึงใช้ดนตรีประกอบที่ผ่อนคลายควบคู่กับแผ่นการ์ดและวัตถุที่จับต้องได้ เพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ด้วยประสาทสัมผัสหลายแบบพร้อมกันอย่างสนุกสนานและไร้แรงกดดัน ปัจจุบันทีมพัฒนากำลังร่วมมือกับสถาบันการศึกษาหลายแห่ง รวมถึงโรงเรียนรวมที่เปิดรับเด็กพิเศษอย่างเท่าเทียม เพื่อวิจัยและประเมินผลของแอปดังกล่าว

“Apple Developer Academy ช่วยให้แม่บ้านอย่างฉันมุ่งมั่นและทำเป้าหมายที่ต้องการให้เป็นจริงขึ้นมาได้ เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ที่ประสบปัญหาด้านการเรียนรู้แบบเดียวกับที่ลูกสาวของฉันเจอ” Santoso กล่าว “ในชั้นเรียน ฉันได้เจอนักเรียนคนอื่นๆ จากหลากหลายที่ และมีความตั้งใจในด้านการศึกษาและการยอมรับความแตกต่างแบบเดียวกัน ที่ปรึกษาของที่นี่ช่วยเราฝึกทักษะการแก้ไขปัญหา และมอบเครื่องมือต่างๆ เพื่อใช้พัฒนา WonderJack ซึ่งเป็นแอปที่ตั้งใจช่วยปลดล็อคศักยภาพของเด็กๆ ทุกคน”

หลักสูตรของสถาบันสะท้อนแนวทางด้านการเรียนรู้บนความท้าทายของ Apple ที่ส่งเสริมให้นักเรียนจัดการกับปัญหาต่างๆ ในระดับส่วนตัว ชุมชน และโลก ขณะเดียวกันก็ออกแบบให้เปิดกว้างด้านความแตกต่างเพื่อสร้างประโยชน์แก่โลกด้วย

ศิษย์เก่าอย่าง Graciela Gabrielle, Jessi Febria และ Yafonia Hutabarat นัดเจอกันที่สถาบันในจาการ์ตา เพื่อพัฒนาแอปนำทางในอาคารแอปแรกของอินโดนีเซียที่จะช่วยให้ผู้ใช้ที่เป็นคนตาบอดหรือสายตาเลือนรางสามารถเดินทางได้อย่างอิสระ แอป PetaNetra ใช้เส้นทางบนเทคโนโลยีความจริงเสริมเพื่อช่วยบอกทางเดินที่ปลอดภัยและรวดเร็วที่สุด โดยพิจารณาจากสิ่งรอบตัว เช่น กำแพง ลักษณะพื้น และวัตถุอื่นๆ ทีมพัฒนาได้ทำข้อตกลงความร่วมมือกับสถาบันขนาดใหญ่หลายแห่ง รวมถึงหอสมุดแห่งจาการ์ตา เพื่อจัดทำแผนที่ของพื้นที่ต่างๆ และปรับปรุงคุณสมบัติของแอป

จากซ้ายไปขวา: Jessi Febria, Graciela Gabrielle และ Yafonia Hubarat ศิษย์เก่า Apple Developer Academy ผู้พัฒนา PetaNetra แอปนำทางในอาคารแอปแรกของอินโดนีเซียที่จะช่วยให้ผู้ใช้ที่เป็นคนตาบอดหรือสายตาเลือนรางสามารถเดินทางได้อย่างอิสระ

“ฉันตั้งใจภาวนาขอให้เจอเพื่อนร่วมทีมที่มีความตั้งใจและพร้อมให้ความช่วยเหลือที่สถาบัน” Gabrielle ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ PetaNetra มีพ่อแม่ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น กล่าว “พวกเราเป็นผู้ก่อตั้งที่เป็นผู้หญิงทั้ง 3 คน และตั้งใจที่จะสร้างสิ่งดีๆ ให้กับสังคมผ่านผลงานของเรา จนได้แรงบันดาลใจออกมาเป็น PetaNetra เพื่อเป็นของขวัญให้กับพ่อแม่ของฉันและผู้คนที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นอีกกว่า 4 ล้านคนในอินโดนีเซีย”

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีจำนวนนักพัฒนาหลายแสนรายอยู่เบื้องหลังแอปมากกว่า 90,000 แอปใน App Store ศิษย์เก่าของสถาบันไม่เพียงก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัปของตนเอง แต่หลายคนได้ทำงานกับบริษัทต่างๆ ในภูมิภาค และมีส่วนร่วมในการพัฒนาแอปและผลิตภัณฑ์ดิจิทัลโดยใช้ทักษะที่ได้รับจากสถาบัน

จากซ้ายไปขวา: Rais Mohammed Najib และ Denis Wibisono ศิษย์เก่าของ Apple Developer Academy เป็นหัวหน้าทีมพัฒนา iOS ที่ Bank Mandiri ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย

ปัจจุบันศิษย์เก่าอย่าง Denis Wibisono และ Rais Mohamad Najib เป็นหัวหน้าทีมพัฒนา iOS ที่ Bank Mandiri ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของอินโดนีเซีย พวกเขามีผลงานสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อด้านโมบายแบงก์กิ้งชั้นนำในตลาดสำหรับชาวอินโดนีเซียหลายล้านคน และเกือบ 40% ของทีมพัฒนา iOS ที่ธนาคารแห่งนี้ล้วนสำเร็จการศึกษาจากสถาบัน

“การได้เข้าเรียนที่สถาบันช่วยเติมไฟในการพัฒนาแอป iOS ได้อย่างมาก” Wibisono กล่าว “ผมเชื่อว่าประสบการณ์ที่ได้รับไม่เพียงแค่เรื่องทักษะการเขียนโค้ดขั้นสูง แต่ยังรวมถึงการฝึกฝนด้านการคิดเชิงวิพากษ์ ซึ่งทั้งสองทักษะเป็นคุณสมบัติพื้นฐานสำคัญต่อการเป็นวิศวกรเทคโนโลยีมืออาชีพ”

ศิษย์เก่ายังมีโอกาสร่วมเรียนกับหลักสูตรและแหล่งข้อมูลจาก Apple เพื่อการศึกษาอื่นๆ ด้วย เช่น Apple Developer Center ที่สิงคโปร์ และ Apple Entrepreneur Camp ที่ช่วยให้คำปรึกษาเพิ่มเติม มอบแรงบันดาลใจ และข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญและวิศวกรของ Apple

Apple Developer Academy เปิดตัวครั้งแรกที่บราซิล และหลังจากนั้นก็ได้ขยายสถาบันไปยังสถานที่ต่างๆ รอบโลก ทั้งเกาหลี อินโดนีเซีย ซาอุดีอาระเบีย อิตาลี และสหรัฐอเมริกา

ที่มา- https://www.apple.com/th/newsroom/2024/04/apple-developer-academy-expands-to-bali/