คาดเศรษฐกิจสิงคโปร์ปีนี้ติดลบหนักสุดถึง 5-7%

  • โควิด-19 ส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อเศรษฐกิจเอเชีย
  • ต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการฟื้นตัว

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์ในไตรมาส 2 ของปี 63 ตกต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ เพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อเศรษฐกิจเอเชีย ที่พึ่งพาการค้า และต้องใช้ระยะเวลายาวนานในการฟื้นตัว

สิงคโปร์ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการล็อกดาวน์ประเทศเป็นระยะเวลาเกือบจะ 3 เดือนของไตรมาสที่ 2  ปีนี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ติดลบสูงถึง 13.2%และติดลบมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 12.6%  

การที่เศรษฐกิจของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลกตกต่ำลงต่อเนื่องกัน 2 ไตรมาส โดย ลดลง 0.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ของปีที่ผ่านมา และลดลง 3.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีที่ผ่านมานั้น เป็นไปตามคำจำกัดความของการถดอถยทางเทคนิคแล้ว 

ส่งผลให้รัฐบาลสิงคโปร์ คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ปี 63 จะหดตัว 5-7% จากก่อนหน้านี้ คาดหดตัว 4-7% สิงคโปร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางด้านการขนส่งและการท่องเที่ยว กำลังเผชิญหน้ากับการตกต่ำครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ และคาดว่า  การตกต่ำครั้งนี้ จะลบล้างการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีที่ผ่านมา 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ นาย Chan Chun Sing  รัฐมนตรีการค้าสิงคโปร์ ระบุว่า ความเจ็บปวดที่แท้จริงคือ เราจะไม่กลับไปสู่จุดก่อนเกิดการระบาดในโลกได้อีกแล้ว  

ขณะที่นาย Chua Hak Bin นักเศรษฐศาสตร์ ของ Maybank กล่าวว่า ข้อมูลทางเศรษฐกิจของสิงคโปร์ ชี้ให้เห็นว่า การฟื้นตัวทางจะช้าลง อีกทั้งความเข้มงวดของการควบคุมด้านชายแดน การเว้นระยะห่างทางสังคม และการขาดแคลนแรงงานต่างชาติ จะส่งผลต่อการฟื้นตัวอย่างมาก แม้รัฐบาลคลายมาตรการล็อกดาวน์ก็ตาม 

ทั้งนี้ เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา แบงก์ชาติสิงคโปร์ (MAS) ได้ออกมาตรการทางการเงิน ในขณะที่รัฐบาลได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเกือบ 1 แสนล้านเหรียญสิงคโปร์ หรือประมาณ 72,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดครั้งนี้ 

สิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจแบบเปิดกว้างที่สุดประเทศหนึ่งในโลก โดยมีการส่งออกประมาณ 200% ของการผลิต และนอกจากสิงคโปร์แล้ว การระบาดของโควิด-19 ครั้งนี้ ยังส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆ ในเอเชียด้วย เช่น ญี่ปุ่น ที่ภาวะเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยเช่นกัน ขณะที่เกาลหลีใต้ ตัวเลขการส่งออกในเดือนสิงหาคม ลดลงเป็นตัวเลขถึง 2 หลัก ขณะนี้ หลายประเทศในโลก ได้เริ่มมาตรการรัดเข็มขัดอีกครั้งภายหลังการระบาดใหญ่ครั้งนี้

ขอบคุณภาพ จาก Traveloka.com