- หนี้เก่ากู้เรียบร้อย 1.19 ล้านล้านบาท
- หนี้ใหม่ปีงบประมาณ 65 วงเงิน 1.12 ล้านล้านบาท
- เตรียมออกพันธบัตร ออมทรัพย์รุ่น “ออมไปด้วยกัน” 80,000 ล้านบาท
นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ2565 รัฐบาลจะมีภาระหนี้รวม 2.3 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นหนี้ที่กู้เงินแล้ว 1.19 ล้านบาท ส่วนหนี้ทีต้องกู้ใหม่อีก 1.12 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 700,000 ล้านบาท ,การกู้เงิน 300,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนที่เหลือจากพ.ร.ก.กู้เงิน โควิด ฉบับที่ 2 วงเงิน 500,000 ล้านบาท ,การกู้เงินเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมตามมาตรา 22 ภายใต้พ.ร.บ.หนี้ วงเงินราว 40,000-50,000 ล้านบาท ส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (จีพีดี) ณ สิ้นเดือนก.ย.64 อยู่ที่ 57.98% ของจีดีพี และคาดการณ์ว่า ณ สิ้นเดือนก.ย.65 หนี้สาธารณะจะอยู่ที่ 62% ต่อจีดีพี
“การกู้เงินของรัฐบาล จะเน้นการกู้เงินในประเทศเป็นหลัก แต่หากจำเป็นจะกู้เงินต่างประเทศ ก็ต้องพิจารณาเป็นรายโครงการ อาทิ โครงการลงทุนสนามบินอู่ตระเภา เป็นต้น ส่วนจะออกพ.ร.ก.กู้เงิน เพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล อย่างไรก็ตามการเป็นหนี้ของรัฐบาล ไม่อยากให้นำมาคำนวณต่อรายหัวประชากร เพราะไม่เป็นตามหลักสากล และไม่มีใครทำกัน ซึ่งการกู้เงิน หรือเป็นหนี้ของทุกรัฐบาลนั้น เพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อพัฒนาประเทศและให้ประชาชนได้ใช้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังเตรียมออกพันธบัตร ออมทรัพย์รุ่น “ออมไปด้วยกัน” วงเงิน 80,000 ล้านบาทในช่วงวันที่ 15 พ.ย.นี้ เพื่อใช้ชดเชยการขาดดุลงบประมาณ และจะออกเพิ่มอีก 70,000 ล้านบาทในช่วงเดือน พ.ค.-ก.ย. 2565 เพื่อให้เป็นไปตามแผนการออกพันธบัตรออมทรัพย์ทั้งปีงบประมาณ 65 ที่ตั้งไว้ที่ 150,000 ล้านบาท