กรุงเทพโพลล์ เผยประชาชน 71% เชื่อรัฐบาลใหม่มีผลต่อการเริ่มธุรกิจใหม่

(Photo by Mladen ANTONOV / AFP)
  • 50.1% ไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจ
  • เหตุปัญหาข้าวของราคาแพง
  • ค่าครองชีพสูง

“กรุงเทพโพลล์” ร่วมกับคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจ และการบริหารกิจการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นประชาชนเรื่อง “คนไทยคิดอย่างไรกับโอกาสในการเป็นเจ้าของธุรกิจ ประจำไตรมาสสอง/2566” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ ด้วยการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ จำนวน 1,231 คน ระหว่างวันที่ 26 มิ.ย.-4 ก.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนเห็นโอกาสหรือความพร้อมสำหรับการริเริ่มธุรกิจในอนาคตมากที่สุด ร้อยละ 61.5 (ลดลงจากไตรมาสก่อนร้อยละ 0.9)

ขณะที่ ร้อยละ 55.6 มีความตั้งใจที่จะประกอบธุรกิจ ในอนาคตข้างหน้า (ลดลง จากไตรมาสก่อนร้อยละ 0.7) และ ร้อยละ 48.8 เห็นว่าตนเองมีความรู้ความสามารถรวมถึงทักษะและประสบการณ์ที่จำเป็นในการที่จะเริ่มทำธุรกิจใหม่ (ลดลงจากไตรมาสก่อนร้อยละ 2.4) ส่วน ร้อยละ 68.2 เห็นว่าไม่อยากลงทุนทำธุรกิจเพราะกลัวความล้มเหลว (เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนร้อยละ 2.4)

ทั้งนี้สาเหตุที่ไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองมากที่สุดคือ ร้อยละ50.1 ปัญหาข้าวของราคาแพง ค่าครองชีพสูง ,ร้อยละ 48.0 กลัวล้มเหลว กลัวขาดทุน ,ร้อยละ 46.7 ไม่มีเงินทุนมากพอ ,ร้อยละ 44.6 น้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆ ราคาสูงขึ้น และ ร้อยละ 34.2 คิดว่างานที่ทำอยู่มั่นคงแล้ว เลี้ยงตัวเองได้แล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่าหากได้รัฐบาลชุดใหม่ จะมีผลมากน้อยเพียงใดต่อการตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจใหม่พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 71.5 ระบุ มีผลค่อนข้างมากถึงมากที่สุดต่อการตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ขณะที่ร้อยละ 28.5 เห็นว่ามีผลค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด