สิงคโปร์โมเดล อัพสกิลให้ประชากรทุกช่วงวัยแบบให้ฟรี สร้างความสัมพันธ์ระหว่างแรงงานต่างวัย สร้างเครือข่าย และโอกาสใหม่ๆให้เกิดขึ้น
ในขณะที่คนไทยในประเทศอาจจะต้องตกงานเป็นจำนวนมาก ไม่ใช่แต่สาขาวิชาที่ตลาดไม่ต้องการ หรือ ถูกดิสรัปจากเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำอย่าง AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์เท่านั้น
ประชากรของประเทศสิงคโปร์กลับไม่กลัวการตกงาน เพราะภาครัฐมีโครงการอัพสกิล หรือที่เรียกว่า โครงการ Skill Future Level-up Program ให้ประชากรในทุกวัย โดยเฉพาะในช่วงวัยกลางคน หรือ ก่อนเกษียณ เป็นการสนับสนุนให้คนเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ “ฟรี” มากมาย ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงชีวิตใดหนุ่มหรือแก่ ก็สามารถเรียนวิชาต่างๆที่ตลาดสิงคโปร์เปิดรับมากกว่า 1.2 ล้านคนได้
วิชาที่รัฐบาลสิงคโปร์ให้เงินงบประมาณสนับสนุนเพื่อการอัพสกิล ก็เช่น Data Analytic ,Tech-Enabled ,Service Digital Media (AR/VR, Social Media Game Development) Cyber Security, Entrepreneurship ,Advanced Manufacturing เป็นต้น
แม้แต่ทักษะการขับ Drone เพื่อการถ่ายภาพ และ Video ให้เกิดความปลอดภัย ก็กลายเป็นคลาสเรียนที่มีผู้ให้ความสนใจจำนวนมาก
การเพิ่มทักษะทางด้านเทคโนโลยีใหม่ๆนี้ เปิดโอกาสให้คนสิงคโปร์ ที่ต้องการเพิ่มศักยภาพ และทักษะการแข่งขันในตัวเองสำหรับอนาคต สามารถตรวจสอบสาขาวิชาที่ตลาดต้องการได้ แม้จะเพิ่งเข้าทำงาน แต่อยากข้ามสายงานไปมีทักษะที่ดีกว่า เช่น เป็นโปรแกรมเมอร์รุ่นเก่า อยากอัพเกรดไปเรียนเป็นโปรแกรมเมอร์รุ่นใหม่ ก็สามารถทำได้ รวมถึงเจ้าของกิจการที่อยากจะเป็นมืออาชีพมากขึ้นด้วย
ในแต่ละคลาสเรียน หรือแต่ละวิชาที่คนสิงคโปร์ประสงค์จะอัพเกรดตัวเองได้นั้น รัฐบาลสิงคโปร์มีงบประมาณให้เป็นลำดับชั้นตั้งแต่เริ่มต้นหัวละ 4,000 เหรียญสิงคโปร์ (26.59) หรือประมาณ 106,360 บาท ให้สำหรับคนอายุ 40 ปีขึ้น
ไปให้อัพสกิลขึ้นแล้ว
รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังสิงคโปร์ ยังมีงบที่จะให้มากขึ้นอีกสำหรับผู้ที่อยากเพิ่มทักษะด้าน AI ที่สูงขึ้นเป็นหัวละ 5,000 เหรียญ หรือ เพิ่มขึ้นเป็นรายวิชา 3,000 เหรียญ/เดือน ในกลุ่มคนที่อยากร่วมมือกับรัฐบาลเพื่อสร้างศักยภาพ และทักษะที่สูงขึ้นสำหรับการแข่งขันในอนาคต
เมื่อปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมา สส.สิงคโปร์ได้ลุกขึ้นระหว่างการประชุมสภาเพื่อขอบคุณรมว.กระทรวงการคลังของเขาในการจัดสรรงบประมาณเพื่อการอัพเกรดคุณภาพของคนสิงคโปร์ซึ่งก่อนหน้านี้ รัฐบาลก็ได้พยายามให้การสนับสนุนการเพิ่มทักษะในการใช้ AI มากขึ้นกระทั่งสัมฤทธิ์ผลอย่างรวดเร็วจนเยาวชนใน Hi-Shcool ของสิงคโปร์สามารถตามแชตบอตใหม่ๆอย่าง Chat GPT Open AI GPT 4 และ Mid -Journey 5 ได้ทัน
ยังมีการเปิดเผยด้วยว่า ความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีในโลกทำให้มีแชตบอตใหม่จัดตั้งเพิ่มขึ้นหลายแพลตฟอร์ม สิ่งนี้กำลังจะเปลี่ยนแปลงโลกไปในทิศทางใหม่ และแพลตฟอร์มใหม่เอี่ยมนี้มีชื่อว่า Sora ที่ผู้คนสามารถป้อนข้อความที่ต้องการเข้าไปใน Prompt แล้วระบบจะทำการสร้างวีดิโอขึ้นมาให้ และเป็นวีดิโอที่สร้างขึ้นโดยสตูดิโอขนาดเล็กแต่แข่งกับ Hollywood ได้
แพลตฟอร์ม AI เหล่านี้ เปิดตัวในตลาดสำเร็จด้วยเวลาไม่ถึง 1 ปี ในขณะที่ AI แต่ละตัวสามารถสนทนากับคุณ และเขียนบทความให้คุณได้เช่นChat GPTทำข้อสอบในโรงเรียนมัธยมก็ได้ ทำข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยตามหลักสูตรของอเมริกาได้ ทั้งยังสามารถทำคะแนนสูงกว่ามนุษย์ที่ฉลาดที่สุดได้เช่นGPT 4ส่วน AI ที่สร้างรูปภาพที่สมจริงของเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริงได้คือMid -Journey 5
AI เหล่านี้ ยังสามารถประมวลข้อมูลต่างๆเพื่อสร้างภาพที่ไม่เคยมีในโลกมาก่อนจาก 1 ภาพเป็น 30 ภาพได้ภายใน 1 วินาทีเท่านั้น และนี่เป็นการประมวลผลที่รวดเร็วมาก วันนี้ AI สามารถสร้างได้ทั้งภาพนิ่ง วีดิโอ ไปจนถึงภาพยนตร์แล้ว
ทุกวันนี้ สิ่งที่ไม่คาดคิดว่า จะเกิดขึ้น การถูกดิสรัปจากเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วในทุกวัน และทุกที่บนโลกใบนี้นั้น ไม่มีประเทศใดสามารถรอดพ้นจากการเปลี่ยน แปลงของโลกที่จะเกิดขึ้นจาก AI ไปได้ และไม่มีใครสามารถปิดกั้นไม่รับ AI จากประเทศอื่นๆในโลกได้ด้วย
ฉนั้นต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้ว่า ประเทศคู่แข่งก็สามารถพัฒนา AI ได้ด้วย จึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่รัฐบาลจะให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถและ ยกระดับทักษะของคนสิงคโปร์ให้เร็วที่สุดตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี
สส.สิงคโปร์ คนเดียวกัน บอกด้วยว่า คุณเรียนอะไรตอนอายุ 20 ปี บัดนี้มันอาจมีการเปลี่ยนแปลง และล้าสมัยไปแล้ว และเมื่อวันนี้มีอายุ 40 ปี หรืออยู่ในช่วงวัยกลางคน ก็ยังเพิ่มทักษะสูงขึ้นได้ด้วยการสนับสนุน และส่งเสริมจากรัฐบาล
การได้แรงงานที่ทำงานมาหลายปี กลับมาเรียนรู้ใหม่เคียงข้างไปกับแรงงานที่มี อายุ 18 , 19 หรือ 20 กว่าๆมาเรียนด้วยกัน ยังจะช่วยเปลี่ยนแปลงกระบวนการเรียนรู้ในระบบการศึกษาชั้นสูงของสิงคโปร์ให้ผู้เรียนได้นำเอาประสบการณ์ และทักษะ รวมไปจนถึงแนวความคิดที่ได้มาจากการทำงาน มาแบ่งปันในห้องเรียน พร้อมไปกับการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆร่วมกับคนรุ่นใหม่
แรงงานที่เข้ามาเรียนรู้ด้วยกันนี้ จะช่วยส่งเสริม และยกระดับกระบวนการเรียนรู้ให้สูงขึ้น ซึ่งนอกจากการเปลี่ยนแปลงระบบการเรียนในห้องเรียนแล้วยังจะเป็น การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแรงงานต่างวัยอันเป็นการสร้างเครือข่าย และโอกาสใหม่ๆให้เกิดขึ้นอีกด้วย (แปล และเรียบเรียง เพื่อนำเสนอโดยคุณ @Sleep less BKK)
สำหรับประเทศไทยซึ่งผู้เชี่ยวชาญกังวลว่า AI ที่มีความฉลาดล้ำเพราะได้รับการพัฒนาไปเรื่อยๆ และมีมันสมองเฉียบคมกว่ามนุษย์นั้น จะทำให้คนที่เรียนมาในระบบเก่า โดยที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาเพิ่มทักษะให้สูงขึ้นอาจตกงานได้ ไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะทำงานเป็น เทคโนโลยีซอฟต์แวร์ โคดดิ้ง โปรแกรมเมอร์ สร้างคอนเทนท์โฆษณา นักบัญชีการเงิน และการลงทุน กราฟฟิค ดีไซน์เนอร์ นักกฏหมาย หรือ สื่อทุกประเภท
มีการระบุด้วยว่า เมื่อ AI ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับมีแฟลตฟอร์มใหม่ๆที่ทำแทนมนุษย์ได้ในเกือบจะทุกอาชีพ จึงประเมินกันว่า จะมีการว่างงานในโลกสูงถึง 300 ล้านอัตราภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว และหากประเทศไทย โดยรัฐบาลไม่ปรับระบบการศึกษา และลงมือเพิ่มทักษะให้แก่ประชากรไทยด้วยความเร่งด่วน และจริงจัง จะมีคนที่ไร้ค่า หรือ ไร้ประโยชน์ที่เรียกว่าUseless Classเกิดขึ้นในประเทศไทยจำนวนมาก