“TCEB” ชิงงาน Specialised Expo 2028 พลิกภูเก็ตสู่เมดิคัลฮับโลก BIE นำทีมพบนายกฯประยุทธ์ ลุยเช็คสถานที่จัดจริง 25-29 ก.ค.65

  • แปลงโฉมภูเก็ต อันดามัน ผงาดเมดิคัล เวลเนส ฮับโลก
  • เผย 25-29 ก.ค.65 คณะกรรมการ BIE บินลัดฟ้ามาไทย
  • เข้าพบ “พล.อ.ประยุทธ์” นายกรัฐมนตรี รองนายกฯ อนุทิน
  • พร้อมลุยตรวจสถานที่เตรียมจัดงานจริงปี’71

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า แผนการชิงงาน Specialised Expo 2028 เข้ามาจัดในประเทศไทยให้ได้อีก 6 ปีข้างหน้าที่จังหวัดภูเก็ตปี 2571 ตั้งเป้าจะใช้งานนี้แปลงโฉมจุดขายใหม่ทำให้ภูเก็ต เป็น World Medical Hub พร้อมกับพัฒนากระบี่ พังงา เชื่อมโยงทำเป็น “Andaman Wellness Medical Hub” พร้อม ๆ กับจะใช้งานระดับโลกรายการนี้ดึงเม็ดเงินจากการเลือกจัดนอกฤดูท่องเที่ยวกระจายทั่วพื้นที่ช่วงระหว่างวันที่ 20 มีนาคม -17 มิถุนายน 2571 รวมกว่า49,000 ล้านบาท ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานได้กว่า 9 ล้านคน-ครั้ง  

ปัจจุบันไทยทำสถิติเป็นประเทศเมดิคัลติดอันดับ 5 ของโลก ตอกย้ำอย่างชัดเจนเรื่องการเมืองสร้างสุขภาพอย่างยั่งยืนตามยุทธศาสตร์ SDGs : Sustainable Development Goals ระหว่างการจัดงานเอ็กซโป แต่ละประเทศทั่วโลกก็จะแสดงให้เห็นถึงอนาคตการดูแลสุขภาพอย่างสมดุลด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นพร้อมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ของภูมิภาคเอเชียด้วย

จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา

ส่วนไทม์ไลน์ตัวแทนคณะกรรมการ BIE : Bureau International des Expositions จาก 7 ประเทศ ผู้รับผิดชอบคัดเลือกเจ้าภาพ เตรียมเดินทางมาประเทศไทย ระหว่างวันที่ 25-29 กรกฎาคม 2565 มีกำหนดการจะเข้าพบ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีระกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กำกับดูแลทีเส็บ และรัฐมนตรีเกี่ยวข้อง

จากนั้นตัวแทนคณะกรรมการ BIE จะเดินทางไปภูเก็ตเพื่อสำรวจพื้นที่ก่อสร้างสถานที่จัดงาน รวมทั้งโรงแรมที่จะรองรับผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งไทยมีที่พักอย่างหลากหลายให้เลือกได้ตามต้องการทุกระดับ

สำหรับการนำเสนอแผนประมูลงาน Specialised Expo 2028 รอบสอง ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 ซึ่งทุกประเทศจะต้องลงลึกในรายละเอียดถึงโครงสร้างสถานที่จัดงาน รูปแบบการใช้งานแต่ละส่วนในอาคาร และรูปแบบการจัดงานรอบสาม จะเกิดขึ้นในเดือนกันยายน 2566 ซึ่งผู้แข่งขันจะรู้ผลการตัดสินว่าประเทศใดจะได้รับการคัดเลือกเป็นเจ้าภาพต่อไป

ส่วนการร่วมประมูลงานรอบแรก “ไทย” เป็นประเทศเดียวในเอเชียเป็นผู้นำเสนอธีม “Future of Life- living in harmony, sharing prosperity” วางแผนการใช้ชีวิตของมนุษย์บนโลกอนาคตอาจจะต้องเผชิญปัญหาทั้งสงครามความขัดแย้ง โรคภัยต่าง ๆ ดังนั้นจึงเน้นเรื่อง “ชีวิตสมดุล” เน้นการสร้างสุขภาพที่ดีหรือWell being สอดคล้องกับในปี คศ.2030 หรือ พ.ศ.2573 ทางองค์การสหประชาชาติ (United Nation) ตั้งเป้าให้เป็นปีแห่งการพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน หรือ SDGs : Sustainable Development Goals

โดยคณะกรรมการ BIE : Bureau International des Expositions ได้กำหนดโจทย์หลักเพื่อใช้เป็นเกณฑ์พิจารณาคัดเลือกประเทศที่เหมาะสมจะได้เป็นเจ้าภาพ Specialised Expo 2028 ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ

ส่วนที่ 1 หลังเสร็จสิ้นการจัดงานแล้ว ประเทศที่ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพ มีแผนบริหารจัดการพื้นที่จัดงานขนาดใหญ่เพื่อใช้ประโยชน์อย่างไรต่อไป

“ประเทศไทย” ได้นำเสนอจุดแข็ง 2 ปัจจัยบวก ได้แก่

ปัจจัยที่ 1 -เลือกใช้พื้นที่ที่จะลงทุนพัฒนาเป็นศูนย์กลางบริการสุขภาพองค์รวม : Wellness Center อยู่แล้ว เป็นของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต กระทรวงสาธารณสุข ขณะนี้อยู่ระหว่างเลือกแนวทางจะร่วมทุนกับเอกชนรายอื่นหรือลงทุนเองทั้งหมด เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอนาคตต่อไป

ปัจจัยที่ 2 ทางสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม (สศช./สภาพัฒน์) ประกาศสนับสนุนภูเก็ตเป็นเมืองสุขภาพยั่งยืนเป็นศูนย์กลางสุขภาพโลก : World Medical Hub

ส่วนที่ 2 สังคมชุมชนรอบพื้นที่จัดงานเอ็กซโปได้เข้ามามีส่วนร่วมเป็นอย่างไรบ้าง

“ประเทศไทย” ได้นำเสนอเรื่องพื้นที่เตรียมจัดงาน Specialised Expo 2028 ครั้งนี้เกิดขึ้นจากแรงผลักดันของคนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตโดยตรง ระดมสมองแล้วนำโครงการมาเสนอรัฐบาลเริ่มตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา จากนั้นทีเส็บได้เข้าไปทำงานร่วมกับ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต (อบจ.) ดำเนินการเตรียมทำข้อเสนอก่อนเดินทางไปร่วมประมูลงานรอบแรกที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2565 ส่วนธีมจัดงานมีทีมบริษัทที่ปรึกษามืออาชีพเข้ามาวิเคราะห์จนตกผลึกด้วยคอนเซ็ปต์ “Future of Life- living in harmony, sharing prosperity”

ทาง “จังหวัดภูเก็ต” ทั้งภาครัฐ เอกชน และพันธมิตรเกี่ยวข้อง ตั้งเป้าจะใช้งาน Specialised Expo 2028 พลิกโฉมสร้างเศรษฐกิจในพื้นที่เพิ่มมากกว่าหนึ่งเสา จากปัจจุบันมีรายได้จากเพียงเสาเดียวคือ “การท่องเที่ยว” ต่อไปจะขยายฐานจุดขายใหม่เรื่องอาหาร และบริการสุขภาพองค์รวม หรือ Medical Wellness Hub สามารถมีรายได้จากทางอื่น ๆเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า

ส่วนที่ 3 จำนวนชาวต่างชาติที่จะเข้าร่วมงาน Specialised Expo 2028 ด้วยศักยภาพของภูเก็ตเป็นจังหวัดท่องเที่ยวมีชื่อเสียงติดอันดับโลก จึงมีโอกาสสูงดึงดูดคนทั่วโลกซึ่งต้องการจะเดินทางมาร่วมงาน จากผลการศึกษาหากไทยจัดที่ภูเก็ตจะมีผู้เข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 9 ล้านคน-ครั้ง หนึ่งคนอาจจะมาเยี่ยมชมงานมากกว่าหนึ่งครั้ง  

นายจิรุตถ์ย้ำว่า ประเมินผลการนำเสนอแผนตอนร่วมประมูลงานรอบแรกแล้ว ประเทศไทยชูธีม “Future of Life- living in harmony, sharing prosperity” มีโอกาสที่ดีไม่เป็นรองประเทศคู่แข่งทั้ง อเมริกา เซอร์เบีย สเปนอาร์เจนตินา เพราะเนื้อหาสามารถตอบโจทย์องค์การสหประชาชาติเรื่อง SDGs และ Human Capility สิ่งที่ต้องเร่งทำงานอย่างหนักต่อไปคือ “ล็อบบี้หรือหาเสียง” กับสมาชิกกว่า 171 ประเทศ เฉพาะในทวีปแอฟริกามี 54 ประเทศทางสาธารณรัฐประชาชนจีนสนับสนุนไทย โดยมีกระทรวงการต่างประเทศกับทางเอกอัครฑูตไทยกรุงปารีส ฑูตพาณิชย์ไทยในฝรั่งเศส เข้ามาช่วยอย่างเต็มที่ โดยได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมารับผิดชอบเรียบร้อยแล้ว

สำหรับธีมหลัก “Future of Life” ของประเทศไทย ได้สื่อความหมายอย่างลึกซึ้งผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัวตามแนวคิดหลัก 2 ส่วน คือ

ส่วนที่ 1 มนุษย์จะต้องปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกับธรรมชาติ หรือ Living in Harmony

ส่วนที่ 2 มนุษย์ต้องแบ่งปันทรัพยากร ความอุดมสมบูรณ์ทั้งทางกายและทางใจ เพื่อให้ทุกชีวิตดำรงอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างเท่าเทียม หรือ Sharing Prosperity ซึ่งหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียวกัน อันเป็นที่มาของแท็กไลน์โครงการที่ว่า living in harmony, sharing prosperity

ควบคู่กับมีแนวคิดรอง จะทำให้งาน Specialised Expo 2028, Phuket Thailand สามารถนำเสนอมุมมองตอบโจทย์Future of Life ครอบคลุมทุกมิติ 3 เรื่อง ดังต่อไปนี้

เรื่องที่ 1 Life & Well Being ในอนาคตสุขภาพและการดำเนินชีวิตที่ดีคือแนวทางการดำรงอยู่ของมนุษยชาติ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางสาธารณสุขได้ในราคาเหมาะสม ทั้งบริการแพทย์ทางเลือก วิทยาการแพทย์สมัยใหม่ ขอแค่เพียงมนุษย์รู้จักเลือกใช้เทคโนโลยีและองค์ความรู้ด้านสุขภาพท้องถิ่นให้เหมาะกับตัวเอง แล้วแบ่งปันองค์ความรู้นี้กระจายไปยังประเทศอื่น ๆ ได้ด้วย

เรื่องที่ 2 Humans & Nature มนุษย์สามารถดำรงชีวิตอยู่กับธรรมชาติอย่างลงตัวได้ทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การบริโภคอย่างมีสติ การดูแลสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานทางเลือก การดูแลโลกใต้น้ำ ทำทุกอย่างโดยไม่เอาเปรียบธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นจุดร่วม จุดยื่น ของมนุษย์ทั่วโลกที่จะดำรงชีวิตอยู่กับธรรมชาติอย่างยั่งยืน

เรื่องที่ 3 Matual Prosperity มนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้สามารถเริ่มต้นด้วยการแบ่งปัน ด้วยการช่วยกันเติมเต็มช่องทางระหว่างขั้วตรงข้ามเพื่อดำรงชีวิตอยู่ ทั้งเรื่อง คุณภาพชีวิต การศึกษา รายได้ การเข้าถึงสุขภาพ ซึ่งเป็นประเด็นที่ทั่วโลกต่างก็นำเสนอถึงเรื่อง New Model of Sharing Economy, Balanced Prosperity, inclusion and Diversity

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza,www.facebook.com/penroongyaisamsaen