ควันหลงจากวันชี้ชะตา อดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน พ้นตำแหน่ง



ควันหลงจากวันชี้ชะตา อดีตนายกฯเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งเมื่อ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา พวกเราที่สติหลุดไป 2 วันและ หายตระหนกตกใจจากมติของศาลรัฐธรรมนูญ 5 : 4 หันมามองตากัน แล้วเริ่มค้นหาสาเหตุของมติที่ตรงกันข้ามกับส่ิงที่คาดคิดว่า เศรษฐา จะรอดในทันที

คำตอบที่ได้มีหลายปัจจัย แต่ย่าจะไม่เคาะเปรี้ยงๆเป็นการชี้นำ หรือ ฟันธงลงไปหรอกว่า ปัจจัยไหน คือ คำตอบที่ถูกต้องที่สุด เนื่องเพราะ มันอาจจะถูกอยู่หลายข้อ หรือไม่ก็ ข้อ ง.ถูกทุกข้อ ก็ได้…อันนี้ก็ต้องแล้วแต่มุมมองของผู้อ่านจะพิจารณากันอย่างไร?

แต่ขอให้เชื่อเถอะว่า ทุกคำตอบอยู่ในกรอบนี้ และไม่หลุดออกนอกรอบไปพาดพิงถึงใคร หรือองค์กรใด แม้จะยังคงมีความโกรธเกลียดในพรรคเพื่อไทยไม่เลิกลา ก็เหอะ

ข้อที่ 1. หนังสือชี้แจงของ เศรษฐา ซึ่งส่งไปยังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ว่า เขาเป็นนักธุรกิจ ไม่ประสีประสาเรื่องกฏหมาย จึงแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน ทนายถุงขนม เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ น่ะ

เขียนขึ้นโดย สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) และ สำนักงานคณะกรรม การกฤษฏีกา หาใช่ ดร.วิษณุ เครืองาม เนติบริกร ที่ถูกดึงตัวไปเป็นที่ปรึกษาอดีตนายกฯ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหานี้ไม่ 

ไม่มีใครรู้ว่า ทำไม เศรษฐา จึงประมาทให้คนพวกนี้เขียนคำชี้แจงให้ โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเป็นสำนักงานฏหมายของรัฐบาล มีหน้าที่ต้องตรวจสอบเรื่องทุกเรื่องที่เป็นประเด็นทางกฏหมายให้แก่รัฐบาล แต่กลับไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ครบถ้วนกระบวนความ

เมื่อเกิดมีเรื่องมีราวที่ทำให้ สว.ยื่นเรื่องการแต่งตั้งรมต.ขัดต่อกฏหมาย ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความผิดของอดีตนายกฯเศรษฐา ในฐานะคนแต่งตั้ง 

เลขาธิการกฤษฏีกา กลับออกมาพูดต่อสาธารณชนว่า สลค. ถามมาข้อเดียว จึงตอบไปเพียงข้อเดียว ในขณะที่รัฐธรรมนูญปี 60 กำหนดคุณสมบัติสำคัญๆ ของผู้เป็นรัฐมนตรีไว้หลายข้อด้วยกัน

เริ่มตั้งแต่ข้อที่ว่า คุณสมบัติของรัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์เป็นที่ประจักษ์ ไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยความเป็นรัฐมนตรีจึงสิ้นสุดลงเมื่อขาดคุณสมบัติ หรือ มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 160 (4) (5) และ (7) (8) ตลอดจนถึง มาตรา 170 (1) และ มาตรา 98 แห่งรัฐธรรมนูญ

ส่วนคำตอบของกฤษฏีกาที่ส่งกลับไปยังอดีตนายกฯ มีข้อความเพียงว่า เมื่อศาลตัดสินจำคุก พิชิต 6 เดือนในปี 51 ฐานละเมิดคำสั่งศาล ขณะที่ข้อกฏหมายมา ตรา 98 ข้อ 7 และ มาตรา160 ข้อ 7 ระบุชัดจึงสรุปได้ว่า พิชิต เป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนในการเป็นรัฐมนตรีเพราะรับโทษจำคุกเสร็จสิ้นมาแล้วมากกว่า 15 ปี

ทำไมคำชี้แจงที่ 2 หน่วยงานระหว่าง สลค.กับ กฤษฏีกา ช่วยกันเขียน และส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ จึงไม่ยอมรับการกระทำของตัวเองในเรื่องนี้ 

ประเด็นสำคัญคือ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญกำหนดคุณสมบัติของผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่า ต้องมีมาตรฐานเช่นนี้รัฐมนตรีคนอื่นในรัฐบาลต้องได้รับการพิจารณา ภายใต้มาตรฐานนี้เช่นกันหรือไม่?

ข้อ 2.ความขัดแย้งที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆระหว่าง ทักษิณ กับ เศรษฐา ตลอดช่วงเว ลา 358 วัน เป็นแก้วร้าวที่ไม่มีทางใช้กาวตราช้างติดได้ นอกจากรอวันปริแตกออกจากกัน โดยเฉพาะเมื่อมี อดีตนายกฯปู ยิ่งลักษณ์ เข้าไปยุ่งเกี่ยวการบริหารจัดการการทำงานในหลายเรื่องของ เศรษฐา…เขียนตามข้อมูลฝ่ายข้าราชการนะ

เริ่มจากคนของ ยิ่งลักษณ์ ที่ถูกส่งเข้าไปรายล้อม เศรษฐา …พิชิต ก็คือ คนหนึ่งที่ถูกฝากให้เป็นรัฐมนตรี

ยังมีฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่คอยก้าวก่ายการทำงานของสื่อ รัฐมนตรี และแม้แต่ตาม ติด เศรษฐา อย่างใกล้ชิดกระจัดกระจายไปตามสถานที่ต่างๆโดยได้รับรางวัลให้เป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจหลายแห่งเป็นการตอบแทน ในขณะที่ทักษิณ เสนอทีมงานเข้าไปช่วยเหลือ แต่ เศรษฐา ปฏิเสธ 

การปรับ ครม.เศรษฐา 1 เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ ทักษิณ ไม่ชอบใจโดยเฉพาะการปรับเอา นพ.ชลน่าน ศรีเแก้ว ขณะเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกจากตำแหน่ง หรือ การเข้ากันไม่ได้กับ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เจ้าของนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ตลอดจนถึงการมีคำสั่งย้ายเจ้าหน้าที่กรมกองต่างๆในฉับพลัน

สำหรับพี่ที่เคารพ การสั่งสอนน้องสาวที่รักยิ่ง จำเป็นต่อการทำให้เธอหยุดพฤติ กรรมที่พี่ และ ครอบครัวของพี่ ตลอดจนถึงคนในพรรค อยากเห็นเป็นรูปธรรมมานานแล้ว

ข้อ 3.การดำเนินนโยบายตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท จากกระเป๋าเงินดิจิทัล ใช้เวลานานเกินไป ทั้งยังมีปัญหาด้านกฏหมายหลายเรื่อง ที่ทำให้มีการคัดค้านของหน่วยราชการ และประชาชน 

ขณะที่อีกด้านมีประชาชนจำนวนไม่น้อยทีเดียวอยากได้เงิน แต่กลับต้องรอนานจนถึงปลายปี ความล่าช้านี้ ยังส่งผลให้รัฐบาลไม่สามารถปรับโครงสร้างการเงิน เพื่อการทรานส์ฟอร์มสู่ระบบการชำระเงินรูปแบบใหม่ได้ด้วย

ข้อสุดท้าย 4.ภายใต้นโยบายเอ็นเทอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ และ คาสิโน ของทักษิณ นั้น พรรคภูมิใจไทย ได้ขอให้เศรษฐา แก้ไขบทบัญญัติในมาตราสำคัญเกี่ยวกับการซื้อใบอนุญาตที่มีราคาแพง จนท้องถิ่นรับไม่ได้ 

ตลอดจนถึงการกำหนดให้บ่อนใต้ดินต้องขึ้นมาอยู่บนดินยังมีความไม่ชัดเจน และการใช้ระบบการจัดเก็บภาษีควรดำเนินการเช่นเดียวกับ สิงคโปร์ และ อังกฤษ ซึ่งทำให้รัฐได้เงินมากกว่า ดั่งนี้ จึงควรเอากลับไปแก้ใหม่หมด 

คำตอบทั้ง 4 ข้อนี้ ไม่ได้เขียนชาร์จให้ดูรายการที่แยกย่อยออกไปโรมรันพันตูกันให้เกิดความสับสน

ฉายให้เห็นแต่ภาพกว้างๆ เพื่อให้ไปคิดเป็นการบ้านเอาเอง

คุณย่าขาซิ่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : สูตรลับ…ฉบับปฏิรูปการเมืองใหม่ จับตา ก้าวไกล ภูมิใจไทย และทักษิณ