นายกฯเศรษฐา หารือประธานบริหาร WEF ย้ำไทยพร้อมพัฒนาเศรษฐกิจ พร้อมหารือ DP World ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์การขนส่งสินค้า การดำเนินงานท่าเรือ
- แสดงเจตจำนงชัดเจนจะมาลงทุนในโครงการ Landbridge
- Bank of Americaชวนไทยทำ Roadshow ร่วมกัน
- เพื่อนำประเทศไทยเข้าไปมีส่วนร่วมในเวทีโลกมากขึ้น
วันนี้ (17 มกราคม 2567) ณ ศูนย์ประชุม Congress Centre เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการพบหารือกับศาสตราจารย์เคล้าส์ ชวาป (Prof. Klaus Schwab) ผู้ก่อตั้งและประธานบริหาร World Economic Forum (WEF) ในโอกาสที่ได้เข้ามาร่วมประชุม WEF ในครั้งนี้
โดยศาสตราจารย์เคล้าส์ ชวาป ได้กล่าวขอบคุณที่เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรก ในรอบ12 ปี ที่มาเข้าร่วมการประชุม WEF ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับภาคธุรกิจ ที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับการค้า การลงทุนครับ นอกจากนั้น ยังได้มอบกระดิ่งคล้องคอวัว เป็นที่ระลึกแก่นายกรัฐมนตรีให้ด้วย
นายเศรษฐา ยังได้หารือกับนาย Bernard Mensah ประธาน Bank of America และ CEO ของ Merrill Lynch International ซึ่งเป็นสถาบันการเงินระดับโลก และมีสำนักงานขนาดใหญ่ที่ไทยด้วย ซึ่งจากการพูดคุยกัน มีแนวทางความร่วมมือ ทั้งการส่งเสริมให้บริษัทไทยไปลงทุนในต่างประเทศ รวมถึงการทำ Roadshow ร่วมกัน เพื่อนำประเทศไทยเข้าไปมีส่วนร่วมในเวทีโลกมากขึ้น
นายกรัฐมนตรีได้หารือกับ Sultan Ahmed bin Sulayem ประธานกลุ่มบริษัท และผู้บริหารของบริษัท DP World ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์การขนส่งสินค้า การดำเนินงานท่าเรือ ซึ่งเป็น Operator ของท่าเรือแหลมฉบัง ได้แสดงเจตจำนงชัดเจนจะมาลงทุนในโครงการ Landbridge พร้อมจะเดินทางมาหารือที่ประเทศไทย และจะเดินทางไปสำรวจสถานที่จริงด้วย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะนำคณะเดินทางไปเอง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้หารือกับผู้บริหาร HSBC ซึ่งพร้อมจะทำงานร่วมกับไทยมากขึ้น และพร้อมจะทำ Roadshow ร่วมกัน รวมถึงหารือกับผู้อำนวยการใหญ่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (World Intellectual Property Organization: WIPO) ซึ่งยืนยันว่าไทยให้ความสำคัญกับเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา และทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันต่อไป
ขณะเดียวกัน ณ ศูนย์ประชุม Congress Centre เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส นายเศรษฐา ได้หารือกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต (H.E. Samdech Moha Bovor Thipadei HUN MANET) นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา โดยได้หารือถึงวาระและประเด็นที่จะได้หารือกันในระหว่างการเยือนไทยของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ นี้ โดยเรื่องสำคัญที่สุด คือ การแก้ไขปัญหา PM 2.5 ซึ่งได้มีการพูดคุยและตั้งคณะทำงานร่วมกันอย่างชัดเจน ซึ่งทั้งสองฝ่ายเข้าใจถึงปัญหานี้และยินดีร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการแก้ปัญหานี้
