จับตา ทักษิณ กลับบ้านพร้อมกำไลอีเอ็ม 20ธ.ค.นี้

คอลัมน์ คุณย่าขาซิ่ง วันที่ 17 ธันวาคม 2566

จับตา ทักษิณ ชินวัตร กลับบ้านพร้อมกำไลอีเอ็ม 20ธ.ค.นี้ อุ๊งอิ๊งค์ การันตีเศรษฐา นายกตัวจริงยาวๆไป

มีคนจากหลายองค์กรตั้งแต่ กรรมาธิการตำรวจของสภาผู้แทนราษฏร อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ คปท.ของทนายนกเขา และ ฯลฯ ประสงค์จะเข้าไป “จับโป๊ะ” อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ที่หลายคนเรียก “นักโทษเทวดา” ว่า ยังรักษาตัวอยู่บนชั้นที่ 14 ของโรงพยาบาลตำรวจจริงหรือไม่ 

หลังจากที่กรมราชทัณฑ์ ออกประกาศฉบับใหม่ให้นักโทษที่เข้าข้อกำหนด สามารถถูกคุมขังนอกเรือนจำได้ โดยการออกไปคุมขังภายในบ้านของตัวเอง และติดกำไลอีเอ็ม

แต่เนื่องจากความประสงค์ดั่งว่านี้ เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล และโรง

พยาบาลตำรวจก็ไม่อนุญาตให้คนสามหาวบุกขึ้นไปรบกวนผู้ป่วยในโรงพยาบาลได้ การจับโป๊ะจึงทำไม่สำเร็จ

กระนั้นก็ตาม โรงพยาบาลได้ให้คำยืนยันว่า อดีตนายกฯทักษิณ ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่นั่น โดยปฏิบัติตัวตามกฏหมาย และระเบียบของกรมราชทัณฑ์อย่างเคร่งครัด นับแต่เดินทางกลับมายังประเทศไทยเป็นเวลาเกือบ 120 วัน 

ส่วนที่วิจารณ์กันต่อว่า อดีตนายกฯทักษิณจะได้ฤกษ์ออกจากโรงพยาบาลในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ หรือ 20 ก.พ.ปีหน้าน่ะ อันที่จริง ถ้าว่า กันตามระเบียบใหม่ของกรมราชทัณฑ์ อดีตนายกฯทักษิณ สามารถเดินทางออกจากโรงพยาบาลตำรวจกลับไปบ้านจันทร์ส่องหล้าได้แล้ว ดังนี้โอกาสที่จะออกจากโรงพยาบาลตำรวจในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ จึงมีความเป็นไปได้มากกว่า

สำหรับคนที่มีอาการป่วยทางจิต หรือที่เรียกว่าโรคจิตเภท คือ กลุ่มอาการของโรคที่มีความผิดปกติทางความคิด และการรับรู้ไม่ตรงกับความเป็นจริงทำให้คาดคะเนไปว่า ทันทีที่ อดีตนายกฯทักษิณ ได้รับอนุญาตให้คุมขังตัวเองที่บ้านพักถนนทุกสายจะวิ่งตรงไปยังบ้านจันทร์ส่องหล้า และทำให้ความสำคัญของนายกฯตัวแทนอย่าง คุณเศรษฐา ทวีสิน หมดความสำคัญ สั่งการอะไรกับใครก็ไม่ได้น่ะ

ฟังจากคุณอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร แล้ว ยืนยันว่า คุณเศรษฐา ยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีความรู้ความสามารถ และตั้งมั่นอยู่ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติต่อไปโดยไม่มีใครเข้าไปแทรกแซง หรือก้าวก่ายการทำงานได้ ขณะที่คุณพ่อของเธอ ขอเป็นแค่คนที่จะช่วยให้คำแนะนำเรื่องต่างๆถ้ามีเท่านั้น 

ย่า อยากจะเล่าให้ฟังสักนิดว่า อาการป่วยทางจิตในกลุ่มที่เรียกว่า อิจฉาริษยา น่ะ เป็นหนึ่งใน มหาบาป 7 ประการในคัมภีร์ไบเบิ้ล แต่นักจิตวิทยา ก็ยังเห็นว่า ความอิจฉามีทั้งในด้านที่เป็นพลังบวก และพลังลบ ส่วนที่เป็นพลังลบ นำมาซึ่งความเป็น Toxic people หรือคนที่ไฟแผดเผาใจเมื่อเห็นคนอื่นได้รับความสำเร็จ นำไปสู่ความเกลียดชัง อยากเหยียบย่ำเพราะเห็นเขาต่ำกว่า หรือรังเกียจถึงขั้นอยากทำร้าย และสร้างความเสียหายแก่ผู้ที่ตนอิจฉาริษยาให้ได้

อาการแบบนี้ คล้ายอาการเกลียดคุณทักษิณแค่คนเดียว ถึงขั้นเผาบ้านเอาทหารเข้ามาปฏิวัติ ยึดทรัพย์ของเขาที่ไม่ใช่ได้มาจากการทุจริตเงินแผ่นดิน แล้วไล่เขาออกนอกประเทศด้วยการสร้างข้อหาต่างๆอันเป็นเท็จเป็นเวลา 17 ปีให้

เพียงเพราะเขาเป็นเศรษฐีใหม่ รวยจากมันสมองตัวเอง และจ่ายทิปให้เด็กเสิร์ฟ 500 บาท ตรงข้ามกับตนที่เป็นพวก Old Money จ่ายทิปให้เด็กแค่ 20 บาทเท่านั้นเอง

ไม่หยุดความริษยาอาฆาต ก็ต้องเปิดหน้าชกกันแบบนี้แหละ!!

คอลัมน์คุณย่าขาซิ่ง