ขณะที่คนไทยยังเล่นกินตับกันอยู่ และคนกลุ่มเดิมๆ ในระดับอีลีท ยังจ้องจะล้มรัฐบาลด้วยวิธีการต่างๆที่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เรียกมันว่า The อิจฉา (jealous) แบบเดียวกับมหากาพย์การละครของ The iCON Group (ดิไอคอนกรุ๊ป) ที่ยังคงขยายวงกว้างออกไปถึงผู้คนในหลายวงการอย่างต่อเนื่องน่ะ
ในฝั่งของสหรัฐอเมริกาที่เพิ่งเสร็จสิ้นการเลือกตั้งใหญ่ประเทศ และได้ โดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกสมัย กำลังวางแผนการใหญ่เพื่อก้าวข้ามเรื่องฝนตกขี้หมูไหล ไปสู่เรื่องใหญ่เพื่อให้สหรัฐฯกลับมาเป็นเบอร์ 1 ของโลกได้อีกครั้ง และยาวนานกว่าที่เคยเป็นมา
สิ่งที่ ทรัมป์ ทำนอกเหนือไปจากงานในราชการปกติที่ต้องเลือกรองประธานาธิบดี รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ตลอดจนถึงทีมงาน โฆษกรัฐบาล และที่ปรึกษาแล้ว
คือ ประกาศแต่งตั้ง อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีโลกเจ้าของขุมทรัพย์ทางเทคโนโลยีมากมาย ในฐานะผู้ให้การสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ในการเลือกตั้ง เข้าไปเป็นที่ปรึกษาส่วนตัว ร่วมกับ วิเวก รามาสวามี มหาเศรษฐีอายุน้อยพันล้านเหรียญผู้ร่ำ รวยจากการลงทุนในเทคโนโลยีชีวภาพ และการเงิน
ทั้งสองจะเข้าไปนั่งหัวโต๊ะในหน่วยงานใหม่ที่ชื่อว่า Department of Government Efficiency ในชื่อย่อที่เรียกกันว่า DOGE ชื่อย่อเดียวกันกับเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ ของ มัสก์ ที่มีรูปสุนัขอยู่ด้านในที่ชื่อ WOW
หน่วยงาน DOGE มีเป้าหมายจะลดขนาดของระบบราชการที่ใหญ่โต เพื่อควบคุมการใช้จ่ายภาครัฐ ซึ่ง ทรัมป์ ระบุว่า DOGE ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐอย่างเป็นทาง การที่จะต้องผ่านกฏหมายของสภาคองเกรส ดังนั้นมหาเศรษฐีทั้งสองจึงไม่ต้องแจ้งรายการทรัพย์สินที่พวกเขามี
DOGE ยังทำหน้าที่ เป็นหน่วยงานที่ปรึกษาภายนอกให้ทำเนียบขาว สามารถใช้เป็นแผนปฏิรูปโครงสร้างระบบราชการ ลดขนาดรัฐ ขจัดกฏระเบียบที่ไม่จำเป็น ตัดค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลือง และปรับโครงสร้างหน่วยงานรัฐบาลให้มีประสิทธิภาพ
โดยทรัมป์มีเป้าหมายจะยุบหน่วยงานหลายแห่งที่ซ้ำซ้อน ภายใต้แผนปรับลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นรายปีซึ่งคาดว่า จะมีมูลค่าราว 6.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯลงให้ได้
ทรัมป์ กำหนดเป้าหมายยากส์นี้ว่า จะต้องทำให้เสร็จสิ้นภายในปี 2569 หรือในวันที่ 4 ก.ค.ปี ค.ศ.2026 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 250 ปีแห่งการประกาศอิสรภาพของประเทศสหรัฐอเมริกา The United States Of America จัดว่าเป็นโครง การใหญ่มากเหมือนโครงการแมนฮัตตัน (การสร้างปรมาณูลูกใหญ่) ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ว่าได้…ย่าก็ว่างั้น ไม่รุ่ง ก็ร่วง แหงๆ
มัสก์ ให้คำมั่นต่อพลเมืองสหรัฐฯว่า โครงการนี้จะมีความโปร่งใส เพราะจะเผยแพร่ข้อมูลที่ดำเนินการทั้งหมดผ่านระบบอนไลน์ ในเวลาเดียวกัน เขาจะร่วมกันจัดทำ “กระดานคะแนน” สำหรับรายการใช้จ่ายที่ไร้ประโยชน์ที่สุดของภาษีประชาชนเพื่อโชว์ให้คนอเมริกัน รับชมผ่านทุกช่องทางในแพลตฟอร์ม AI ของเขา ได้รู้ชัดเจนร่วมกันว่า อะไรบ้างที่อเมริกันชนต้องเสียประโยชน์จากการเสียภาษีให้รัฐไปอย่างไร้ซึ่งประโยชน์ในแต่ละปี
กลยุทธของ โดนัลด์ ทรัมป์ ในการกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้จึงน่ากลัวกว่าครั้งที่แล้ว ซึ่งเน้นจัดการกับโครงสร้างประเทศที่จะทำให้สหรัฐอเมริกา กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง(America Great Again) ด้วยการใช้นโยบายกีดกันทางการค้า กดดันผู้ที่ไม่ใช่คนอเมริกัน หรือพวกที่ลักลอบเข้าเมือง ออกไปจากสหรัฐอเมริกา
แต่มาครั้งนี้ ทรัมป์ เอามหาเศรษฐีผู้ได้ชื่อว่า มนุษย์สองขั้ว เจ้าพ่อแห่งนวัตกรรม ผู้เป็นเจ้าของ Space X ,Tesla และแพลตฟอร์ม AI ที่อาจจะเรียกว่า ฉลาดที่สุดในโลก กับมหาเศรษฐีหนุ่มผู้มียีนชาญฉลาดจากอินเดีย เข้ามาเป็นตัวการขับเคลื่อนนโยบายที่เกี่ยวข้องกับระบบเศรษฐกิจหลายด้าน
รวมถึงการใช้สกุลเงินดิจิทัลในรัฐบาลใหม่ ซึ่งน่าจะทำให้ตลาดเงินโลก เกิดความผันผวน และปั่นป่วนอย่างหนักแน่นอน
มองสหรัฐอเมริกา แล้วหันกลับมามองดูประเทศไทยในวันนี้ ซึ่งแม้แต่ ดิจิทัล วอลเล็ต ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับ ผู้คนยังไม่พาตัวเองออกจากที่เดิมๆ ไม่ลองทำสิ่งใหม่ ไม่กล้าเสี่ยง ภูมิใจในข้อดีของตัวเองตลอดเวลา โดยไม่แสวงหาโอกาสใหม่ที่ดีกว่า เราจึงไม่มีอะไรสักอย่างที่จะสู้กับประเทศที่เต็มไปด้วยศักยภาพมากมายไม่ต้องถึงกับสหรัฐฯก็ได้ แม้แต่คู่แข่งในภูมิภาคเดียวกันเราก็ยังจัดว่าล้าหลัง…ถ้าใครเห็นว่า มี ก็ช่วยบอกด้วย
เป็นเรื่องจริงที่ ยามสงบ เรามักจะชอบตีกัน และไม่เคยมีสักครั้งที่จะมีความสามัคคีในประเทศชาติ…ไม่เคยชวนกันพัฒนาชาติ หรือทำหน้าที่ที่จะสร้างความเจริญงอกงามนอกเหนือจากตัวเอง
แล้วเราจะเอาอะไรไปสู้กับโลกยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยคนฉลาดที่บ้าดีเดือด และพร้อมจะทำทุกสิ่งเพื่อประเทศชาติของพวกเขา
คุณย่าขาซิ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ชัยชนะของทรัมป์ หนุน อีลอน มัสก์ รวยทิ้งห่าง เจฟฟ์ เบโซส
