ความร้อนแรงราคาทองและวิเคราะห์ทิศทางในอนาคต

ราคาทอง ทองคำ สวัสดีวันสงกรานต์ วิเคราะห์ราคาทอง
คอลัมน์คุณย่าขาซิ่ง เขียนประวัติศาสตร์ราคาทอง พร้อมบทวิเคราะห์ในอนาคต

คำว่า “ทอง” พูดเบาๆ ก็รู้สึกลึกซึ้งได้ถึงคำว่า “แพง” คุณย่าขาซิ่ง ขอเล่าวิวัฒนาการของ ราคาทอง เมื่อสมัยครั้งกระโน้น จน ล่าสุด มาถึงวันนี้ พร้อมบท วิเคราะห์ คุณรู้ไหม? ว่า ราคาทอง ทำไมถึงขึ้นเอาๆ แบบไม่คิดถึงหัวอก “เจ้าบ่าว” อยากมีเมียสักคนแต่ ท. ทอง นั้นแพงมาก ต้องลำบากแบกเงินไป ซื้อมาก็ทำใจ เมียที่ได้พร้อมความจน…ไปอ่านบท วิเคราะห์ กัน

ในฐานะผู้เฒ่าผู้แก่ ย่าขอ สวัสดีวันสงกรานต์ อวยพรให้ชาวไทย และชาวโลก ประสบแต่ความสุขความเจริญ มีสุขภาพแข็งแรง ใช้ชีวิตอย่างมีสติ อดทน และ ขยันหมั่นเพียร ในโอกาสที่ประเทศไทยเราขึ้นศกใหม่ในวันนี้

เอาละ สงกรานต์ ปีนี้ เสาร์ 5 13 เมษายน 2567 ตรงกับวันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ หรือที่หลายคนเรียกว่า “ เสาร์ 5 ” เราจะมาคุยกันเรื่องของ ราคาทอง บทวิเคราะห์ และ แนวโน้มว่า ราคาทอง จะทะยานขึ้นไปถึงระดับใด ราคาบาทละเท่าไหร่… โหนกระแส กับเขาสักวัน

ราคาทอง ทองคำ สวัสดีวันสงกรานต์
ราคาทองจากอดีตถึงปัจจุบัน รวบรวมโดย คุณย่าขาซิ่ง

ย้อนรอย ราคาทอง

ก่อนอื่น ขอย้อนกลับไปในสมัยแรกแย้ม ที่มักได้ยินยายบ่นว่า ราคาทอง ไม่ขยับไปไหนนานแล้ว คงอยู่ที่บาทละ 400 บาท มาหลายปี ซื้อ ทอง 1 สลึง ก็ 100 บาท มีจูงใจใครให้ซื้อทองคำเก็บกัน กว่าจะค่อยๆขยับขึ้นมาทีละเล็กละน้อย จนทะลุบาทละ 1,379 บาทก็ใช้เวลานานถึง 10 ปี หรือเมื่อปีพ.ศ.2519 

อีก 17 ปี ต่อมา ราคาทองคำ จึงไต่ขึ้นมายืนอยู่ที่ระดับบาทละ 4,200 – 4, 800 บาท กลับไปกลับมา กระทั่งทุกคนมาเห็นอีกครั้งในปี 2547 ราคาทองคำ ก็วิ่งอ้าวขึ้นมาอยู่ที่บาทละ 7,900 บาท เมื่อเศรษฐกิจประเทศไทย ค่อยๆปรับตัวดีขึ้น และออกไปเปิดหูเปิดตาค้าขายกับต่างประเทศมากขึ้น

มาจนถึงช่วง สวัสดีวันสงกรานต์ ปีนี้นี่แหละ ที่ราคาทองคำทะยานขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากต้นปีที่ไต่ระดับอยู่บาทละ 32,000 บาท เผลอแผลบเดียว เมื่อวานนี้( 12 เมษายน 2567 ) ราคาทองคำแท่ง 96.5% รับซื้ออยู่ที่บาทละ 41,740 บาท ขายออกที่บาทละ 41,800 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อบาทละ 40,507.52 บาท ขายออกที่บาทละ 41,850 บาท… ส่วนราคาวันนี้(13 เมษายน)ลงมานิดหน่อย… ตาเถรตก!!

ราคาทอง ทองคำ สวัสดีวันสงกรานต์
ราคาทองคำ 96.5%
อัพเดตล่าสุด วันที่ 13 เม.ย. 2567 เวลา 09:04:45 น.
ที่มา : ฮั่วเซ่งเฮง

ทีนี้ถ้าไปดูกราฟราคาทองคำ ของห้างทองชื่อดัง ฮั่วเซ่งเฮง จะเห็นว่า ราคา Gold Spot / U.S.Dollar วิ่งปรื๊ดขึ้นไปนั่งกินลมชมวิวทะลุแนวต้านที่ระดับ 2,350 ดอลล่าร์ สรอ.ต่อออนซ์ ไปอยู่ที่ระดับ 2,414.725 ดอลล่าร์ สรอ.ต่อออนซ์เพียงแค่ข้ามวันเท่านั้น

ราคาทอง ทองคำ สวัสดีวันสงกรานต์
กราฟแสดงราคาทองคำ

นักค้าทองคำให้ความเห็นก่อนหน้านี้ว่า ใครเก็บทองไว้ก่อน รู้นะว่ากำไร ดังนั้น จะเอาออกมาขายทำกำไรก่อนก็ได้ เมื่อราคาทองคำขึ้นไปแตะบาทละ 40,000 บาท เป็นการชิงทำกำไรระยะสั้นไว้ก่อน เพราะค่าเงินบาทยังอ่อนอยู่ และอัตราดอกเบี้ยนโยบายของแบงก์ชาติ ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

คือ ยังคงถูกตรึงไว้ที่ระดับ 2.25 – 2.50% เช่นเดียวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ(FED)ที่อยู่ระดับ 5.25 – 5.50% แต่ดูสถิติแล้ว ผู้คนหันมาซื้อทองคำเก็บมากถึงราววันละ 60% ของการซื้อขายแต่ละวัน

ในขณะที่นักทฤษฏีสมคบคิด มองว่า การที่ธนาคารกลางหลายประเทศทั่วโลกยังคงกว้านซื้อ ทองคำ เก็บเป็นทุนสำรอง และขายพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐออกมาก็เพื่อต้องการจะไล่บี้สหรัฐให้จนตรอกจากการเป็นอันธพาลโลกที่คอยยึดทรัพย์สินของใครต่อใครที่ตัวเองเกลียดขี้หน้าหมดเช่น ยึดพันธบัตรสกุลเงินดอลล่าร์ สรอ. จากนักธุรกิจผู้ใกล้ชิดประธานาธิบดีปูติน แห่ง รัสเซีย

ไม่ก็คอยเล่นงานนักธุรกิจ และรัฐบาลจีน ตลอดเวลาในข้อหามีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่า เป็นต้น

เมื่อสถานการณ์ในสหรัฐสุกงอม หนี้สาธารณะสูงถึง 34.5 ล้านล้านเหรียญ สูงกว่าตัวเลข GDP ที่มีอยู่ 25 ล้านล้านเหรียญ ราคาพันธบัตรร่วงกราวรูด ขณะที่ดอกเบี้ยเสี่ยงคุกคามเศรษฐกิจจนทำให้ผู้คนตกงาน และไร้ที่อยู่เกลื่อนเมืองมากขึ้น 

ทั้งจีน อินเดีย และอีกหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย ต่างก็หันมาเพิ่มการถือครองทองคำกันยกใหญ่ เช่น ธนาคารกลางของจีน เทขายพันธบัตรสกุลเงินดอลล่าร์สรอ.กว่า 800,000 ล้านเหรียญออก แล้วซุ่มเก็บสะสมทองคำทุกราคาเข้าคลังตลอดช่วงเวลา 17 เดือนที่ผ่านมา จนคาดการณ์กันว่า ธนาคารกลางของจีนน่าจะมีทองคำในมือมากถึง 5,300 ตันจากที่มีอยู่กว่า 2,300 ตันเมื่อปีที่ผ่านมา

นอกจากความขัดแย้งระหว่างประเทศในเรื่องเศรษฐกิจการค้า และการลงทุนแลัว ปัญหาเรื่อง Geopolitics ที่ทำให้เกิดสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน , อิสราเอล – กลุ่มฮามาสอิสลามหัวรุนแรง – อิหร่าน และความขัดแย้งที่ยังคุกรุ่นอยู่ตลอดระ หว่าง จีน กับ ไต้หวัน ยังเป็นเหตุผลสนับสนุนให้หลายประเทศต่างก็ต้องแสวงหา และ เก็บตุนทรัพย์สินที่เป็นเสมือน Safe Haven ไว้ก่อน

Safe Haven คือ การลงทุนที่คาดว่าจะรักษาเงินต้นหรือเพิ่มมูลค่าในช่วงเวลาที่สภาะเศรษฐกิจเกิดความผันผวน และสามารถลดความเสี่ยงในกรณีที่กำลังเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ

แปลตรงตัวได้ตามนี้แล้ว “ ทองคำ ” จึงกลายเป็น  ทรัพย์สินที่มั่นคงสูงสุดของนักลงทุน และธนาคารกลางต่างๆโดยเฉพาะในยามที่โลกเกิดความไม่สงบ ตอกย้ำอีกทีว่า มั่นคงกว่า “บิทคอยน์” ที่เอาแต่ปล่อยข่าว Fake News ตลอดเวลาด้วย 

ทีนี้ ถามว่า ราคาทองคำ มีโอกาสจะทะยานต่อไปได้อีกมากน้อยแค่ไหน นักวิเคราะห์การลงทุนซึ่งคร่ำหวอดอยู่กับการทำกำไรจากการลงทุน ให้ราคาทองคำในตลาดต่างประเทศหรือ Gold Spot ขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 3,000 เหรียญต่อออนซ์ในระยะ 6 – 12 เดือนข้างหน้า 

ส่วนราคาทองคำในประเทศอาจจะวิ่งขึ้นไปอยู่ที่ระดับบาทละ 45,000 – 50,000 บาทได้เช่นกัน ยิ่งถ้าค่าเงินบาทกลับมาอ่อนตัวลงอีกครั้งที่ระดับ 36.50 – 37.00 บาทต่อดอลล่าร์ สรอ.อีกครั้ง

นักทฤษฏีบางคนให้ราคาทองคำโดดไปถึงเลข 6 หลักก็มี แต่เอาการคาดการณ์แค่นี้ ผสมกับคำทำนายทายทักของโหรชื่อดังที่ชี้ตรงกันว่า เมื่อดาวพฤหัสฯย้ายเข้าสู่ราศีเมษอันเป็นราศีดวงเมืองแล้ว เศรษฐกิจประเทศจะเกิดความคึกคัก และมากกว่า 6 ราศีจะได้ร่ำรวยขึ้น และได้รับโชคลาภเข้ามาอย่างไม่คาดคิด หลังจากที่เหงาหงอยกันมานาน

ว่าแต่โชคลาภจะไม่วิ่งเข้าไปหา ถ้าผู้คนในราศีนั้นๆเอาแต่นอนกระดิกตีน ที่สำคัญความมีสติ อดทน และขยันขันแข็งเพื่อแสวงหารายได้เพิ่มขึ้น จะทำให้คนในราศีเหล่านั้นค่อยๆปรับตัวดีชึ้น และร่ำรวยขึ้นนับจากวันที่ 30 เม.ย.นี้ไปจนถึง เดือน เม.ย.ปีหน้า ก่อนที่ความร่ำรวยจะทะยานขึ้นไปอีก และขึ้นไปอีก… 

เห็นจะต้องโม้กันแค่นี้ก่อนที่จะไปทำให้ความคิดใครพุ่งพล่าน และโปรดอย่าลืม

ว่า ทุกๆการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ!!!

คุณย่าขาซิ่ง

เช็คราคาทองที่นี่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ทองคำเปิดตลาดเช้านี้ 12 เม.ย.67 ปรับราคา 5 ครั้ง ขยับพุ่ง 700 บาท