ESG ลงทุนให้โลกสวยด้วยมือเรา

แฟนๆ ที่ติดตามอ่านคอลัมน์ “รู้เก็บรู้ออมรู้ใช้รู้ลงทุน..สู่ความมั่งคั่ง” มาตลอด คงจะทราบดีว่า หุ้นยั่งยืน เป็นหลักทรัพย์ของบริษัทที่ประกอบกิจการ โดยไม่ได้แสวงหากำไรเป็นตัวเงินเพียงอย่างเดียว แต่ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม สังคมและหลักธรรมาภิบาล (ESG) ด้วย สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เป็นหลักประกันสร้างความยั่งยืนและผลดีระยะยาวต่อธุรกิจอย่างแท้จริง

ที่ผ่านมา บริษัทในตลาดหุ้นไทย ให้ความสำคัญกับเรื่อง ESG เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกัน ในแต่ละปี มีบริษัทจดทะเบียนไทยจำนวนไม่น้อย สร้างชื่อให้กับประเทศไทย ด้วยการได้รับคัดเลือกเข้าดัชนีด้านความยั่งยืนระดับโลก DJSI World  และดัชนี DJSI EM (Emerging Market) ติดอันดับสูงสุดในอาเซียนเลยทีเดียว

ถือว่า หุ้นยั่งยืน ได้เป็นกระแสหลักของการลงทุนที่เหล่านักลงทุนใช้เป็นเกณฑ์สำคัญในการตัดสินใจเลือกลงทุนในหุ้น  

การลงทุนในโลกยุคใหม่ นักลงทุนจะมองทั้งเรื่องผลตอบแทนทางการเงิน ควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญเรื่อง ESG   ซึ่งแนวคิดการลงทุนแบบนี้ คือ การลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainable Investing)”

การลงทุนตามรูปแบบต่อไปนี้  ถือว่า อยู่ในจักรวาลของการลงทุนยั่งยืน  ซึ่งประกอบไปด้วย  1. นักลงทุนจะคัดกรอง และไม่ลงทุนในบริษัทที่สร้างผลกระทบเชิงลบต่อสังคมหรือสิ่งแวดล้อม (NEGATIVE/EXCLUSIONARY)   อย่างเช่น ธุรกิจค้าอาวุธ ยาสูบ แอลกอฮอล์ คาสิโน  2. เลือกลงทุนโดยใช้ปัจจัยด้าน ESG ควบคู่กับการดูผลประกอบการทางการเงิน (ESG INTEGRATION ) 3. ลงทุนในธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานด้าน ESG โดดเด่น  ได้รับการจัดอันดับหรือคัดเลือกให้อยู่ในดัชนีหรือรายชื่อหุ้นยั่งยืน  (BEST-IN-CLASS SCREENING)  

4. ลงทุนในธุรกิจที่เกาะธีมความยั่งยืน  (THEMATIC INVESTMENT)  เช่น ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และ 5. ลงทุนในธุรกิจที่สร้างสรรค์ให้สังคมและสิ่งแวดล้อมดีขึ้น (IMPACT INVESTING) เช่นสตาร์ทอัพที่พัฒนาเทคโนโลยีด้านการเกษตรสมัยใหม่ เพื่อแก้ปัญหาน้ำแล้ง, เอสเอ็มอีที่สนับสนุนการสร้างอาชีพให้คนในชุมชนห่างไกล

ทั้งหมดข้างต้น ถือเป็นรูปแบบการลงทุน ESG ที่นอกจากนักลงทุนเองจะได้ประโยชน์จากความเสี่ยงของการลงทุนที่ลดลง เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ที่สำคัญ ยังจะได้รับความสุขใจจากการมีส่วนร่วมที่ช่วยให้โลกของเราดีขึ้น 

ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุนในหุ้นยั่งยืน สร้างความภาคภูมิใจให้กับนักลงทุนว่า ได้เลือกลงทุนในธุรกิจที่ไม่เป็นพิษภัยต่อสังคม  และยังเป็นการช่วยสนับสนุนคนทำดีอีกด้วย

ถือว่า เป็นการสะสมแต้มบุญของโลกแห่งการลงทุน  ไม่นำตัวเองไปข้องเกี่ยวกับสิ่งไม่ดีที่สร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเองและผู้อื่น    และหากอยากเรียนรู้เรื่องการลงทุนอย่างยั่งยืน ที่กำลังเป็นการลงทุนกระแสหลักของโลก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีหลักสูตร  “ESG วิถีใหม่ลงทุนอย่างยั่งยืน”   เปิดให้เข้าไปเรียนผ่าน e-Learning  โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตามลิงค์นี้เลย  https://elearning.set.or.th/SETGroup/courses/533/info