ข่าวดีรับสงกรานต์ ธอส. เคาะ ลดดอกเบี้ย MRR 0.105% ต่อปี

ธอส. ขานรับนโยบายรัฐ ประกาศ ลดดอกเบี้ย เงินกู้ MRR 0.105% ต่อปี เป็นของขวัญปีใหม่ไทย มีผล 14 เม.ย.นี้ หวังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้า และประชาชน

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตามที่นายกฤษฏา จีนะวิจารณะรมช.คลัง มอบนโยบายให้ ธอส. สนับสนุนนโยบายรัฐบาล และกระทรวงการคลัง ในการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับลูกค้าและประชาชน นั้น ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ พร้อมดำเนินการดังกล่าว 

ทั้งนี้ ล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสินทรัพย์ หนี้สิน และการเงิน (ALCO) ของธอส. ได้มีมติปรับ ลดดอกเบี้ย เงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) 0.105% ต่อปี จากเดิม 6.90% ต่อปี ลดลงเหลือ 6.795% ต่อปี ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 เมษายน 2567 เป็นต้นไป เพื่อเป็นของขวัญเนื่องในวันปีใหม่ไทยให้กับลูกค้าและประชาชนให้มีภาระค่าใช้จ่ายลดลง โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ให้มีเงินเหลือเพียงพอในการดำรงชีพได้มากขึ้น

“การปรับ ลดดอกเบี้ย MRR ในครั้งนี้ของ ธอส. ถือว่าต่ำที่สุดในระบบสถาบันการเงินในปัจจุบัน” นายกมลภพกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ EXIM BANK ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate 0.15% ต่อปี จาก 6.75% เหลือ 6.60% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ EXIM BANK ใช้สำหรับลูกค้าทั่วไปและลูกค้า SMEs เทียบเท่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้า รายย่อยชั้นดีหรือ MRR ของธนาคารพาณิชย์) นับเป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดีที่ต่ำที่สุดในระบบเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ไทยในเทศกาลสงกรานต์นี้ให้แก่ผู้ประกอบการ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2567 เป็นต้นไป

การปรับลดอัตราดอกเบี้ย Prime Rate ในครั้งนี้เป็นการขานรับนโยบายของรัฐบาลในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยลดภาระให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของ EXIM BANKในการสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้มีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ บรรเทาภาระหนี้และต้นทุนทางธุรกิจ และสามารถปรับตัวให้แข่งขันในเวทีโลกได้อย่างยั่งยืนในสภาวะที่เศรษฐกิจไทยเติบโตในอัตราที่ช้าลง ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยในตลาดการเงินยังอยู่ในระดับสูง

ขณะที่ธนาคารออมสิน ได้นำร่องลดดอกเบี้ยไปตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา

โดยธนาคารออมสิน ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย เงินกู้ลูกค้ารายย่อย (MRR) หลังจากตรึงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน ไว้ในระดับต่ำจนถึงสิ้นปีที่ผ่านมา โดยประกาศดอกเบี้ย MRR จากเดิม 6.995% ลดลงเหลือ 6.845% เพื่อช่วยเหลือบรรเทาภาระทางการเงินของประชาชนในช่วงระยะนี้ไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง นับเป็นอัตราดอกเบี้ย MRR ที่ต่ำสุดในระบบธนาคาร ณ เวลานั้น

อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ย MRR หรือ Minimum Retail Rate เป็นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิงที่ใช้สำหรับลูกค้าสินเชื่อรายย่อย ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของธนาคาร การประกาศลดอัตราดอกเบี้ย MRR ในครั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าช่วยเหลือประชาชนในภาวะที่ต้องแบกรับต้นทุนทางการเงินมากขึ้นในการดำรงชีพ ถือเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐและสอดคล้องตามภารกิจธนาคารเพื่อสังคม

ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 เม.ย. 2567 นั้น ธนาคารออมสิน ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ พร้อมขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล โดยออก 4 โครงการสินเชื่อกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ชุดใหญ่ วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท ประกอบด้วย “สินเชื่อบ้านออมสินเพื่อคนไทย” “สินเชื่อ Top-Up” “สินเชื่อ GSB D-HOME กระตุ้นเศรษฐกิจ” และ “สินเชื่อ GSB D-HOME สร้างบ้านเพื่อคนไทย”

ครอบคลุมการช่วยเหลือประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้ผู้ประกอบการมีสภาพคล่องมีเงินทุนหมุนเวียนในโครงการ และสามารถพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ได้ในอนาคต โดยสามารถยื่นคำขอกู้กับธนาคารออมสินได้ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. 2567 เป็นต้นไป สำหรับโครงการสินเชื่อดังกล่าว ประกอบด้วย

สินเชื่อบ้านออมสินเพื่อคนไทย วงเงินโครงการ 10,000 ล้านบาท สำหรับบุคคลทั่วไปที่ต้องการซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ห้องชุด หรือปลูกสร้างที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 7 ล้านบาท/ราย อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.95% ต่อปี ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ย 1.95% ต่อปี ปีที่ 2 = 2.95% ต่อปี และปีที่ 3 = 3.95% ต่อปี ปีที่ 4 เป็นต้นไป MRR -0.750% ต่อปี ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 40 ปี พร้อมเงื่อนไขเงินงวดผ่อนชำระต่ำพิเศษนานสูงสุด 3 ปี

โดยปีแรกผ่อนชำระเงินงวดล้านละ 2,500 บาท/เดือน ปีที่ 2 ล้านละ 3,500 บาท/เดือน และปีที่ 3 ล้านละ 4,500 บาท/เดือน นอกจากนี้ ผู้ที่ต้องการกู้เพิ่มเติมเพื่อซื้อเฟอร์นิเจอร์ ตกแต่งบ้าน หรือสิ่งจำเป็นอื่นในการเข้าอยู่อาศัยสามารถขอกู้ สินเชื่อ Top-Up อัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรกคงที่ 3.490% ต่อปี

และสามารถเลือกชำระเงินงวดแบบผ่อนต่ำ 3 ปี ล้านละ 4,000 บาท/เดือน โดยทั้ง 2 โครงการสามารถยื่นคำขอกู้กับธนาคารออมสินได้ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. จนถึงวันที่ 30 ธ.ค. 2567 หรือจนกว่าจะครบวงเงิน และจัดทำนิติกรรมสัญญา ภายในวันที่ 30 ม.ค. 2568

GSB D-HOME

สำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการมีเงินลงทุนเพื่อเสริมสภาพคล่อง ธนาคารได้ออก สินเชื่อกลุ่ม GSB D-HOME จำนวน 2 โครงการ วงเงินรวม 10,000 ล้านบาท ได้แก่ สินเชื่อ GSB D-HOME กระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นสินเชื่อสำหรับให้ผู้ประกอบการนำไปเป็นเงินลงทุน

เช่น เป็นค่าที่ดิน ค่าก่อสร้าง ค่าพัฒนาสาธารณูปโภค หรือเป็นเงินหมุนเวียนในกิจการ แต่จะต้องไม่เป็นการให้กู้เพื่อเก็งกำไรที่ดิน อัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรกคงที่ 3.99% ต่อปี และ สินเชื่อ GSB D-HOME สร้างบ้านเพื่อคนไทย สำหรับการส่งเสริมกิจการโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ราคาขายไม่เกิน 1.5 ล้านบาท/หลัง อัตราดอกเบี้ย 2 ปีแรกคงที่ 3.50% ต่อปี

ทั้งนี้ ไม่จำกัดวงเงินกู้ และระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน4 ปี พร้อมฟรีค่าธรรมเนียม Front End Fee และ Pre-Payment Fee โดยผู้ประกอบการที่สนใจสามารถยื่นคำขอกู้กับธนาคารออมสินได้ตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. 2567 เป็นต้นไป และจัดทำนิติกรรมสัญญา ภายในวันที่ 30 ธ.ค. 2568

อ้างอิงจาก ธนาคารอาคารสงเคราะห์

Exim Bank ลดดอกเบี้ย