“ราเมศ” แนะรัฐบาลใส่ใจดูแลอาหารกลางวันเด็ก ครบ 5 หมู่

“ราเมศ” ให้รัฐบาลใส่ใจดูแลอาหารกลางวันเด็ก ครบ 5 หมู่ แนะ ศธ.จัดทีมตรวจทั่วประเทศ

  • แนะ ศธ.จัดทีมตรวจทั่วประเทศ
  • งบประมาณก็ควรจัดสรรให้เพียงพอ

วันที่ 13 มกราคม 2567 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์ขณะลงพื้นที่ร่วมงานวันเด็กในอำเภอคุระบุรี และอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงาว่า เนื่องในวันเด็กแห่งชาตินี้ ขอให้เด็กและเยาวชนทุกคน มีความสุข สนุกกับการเรียนรู้ในทุกเรื่อง ยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปการสื่อสาร และเรียนรู้ที่รวดเร็วขึ้นจากหลายช่องทาง น้อง ๆ ต้องใช้ให้เป็นประโยชน์ และต้องระมัดระวังหากนำไปใช้ไม่ถูกต้องก็อาจจะเป็นโทษได้ ความทันสมัยในเรื่องเทคโนโลยีนั้นตนเชื่อว่าหากนำมาใช้เพื่อการเรียนรู้จะมีประโยชน์เป็นอย่างมาก

วันเด็กแห่งชาติ เป็นวันสำคัญที่จะเป็นวันที่ให้เด็กตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญของเด็กในประเทศ ปลูกฝังให้มีส่วนร่วมในสังคม เตรียมพร้อมให้ตนเองเป็นกำลังของชาติ ได้รู้ถึงสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย มีความยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

นายราเมศกล่าวต่อไปถึงกรณีที่เป็นข่าวในสังคมออนไลน์จากการที่มีโรงเรียนประจำพักนอนแห่งหนึ่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอนจัดอาหารให้นักเรียนเป็นข้าวเปล่ากับไข่ต้มและน้ำปลา จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์นั้นว่า รัฐบาลควรให้ความใส่ใจในเรื่องอาหารกลางวันเด็กให้มากกว่านี้ การจะสร้างคนสร้างประเทศ ต้องเอาใจใส่ตั้งใจดูแลเด็ก อาหารในวัยเรียนเป็นเรื่องสำคัญมาก ต้องจัดอาหารให้มีปริมาณเพียงพอ พร้อมคุณภาพ ถูกหลักโภชนาการ และครบ 5 หมู่ เพราะจะส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กรวมถึงสุขภาพและความสุขของเด็กด้วย รัฐบาลจึงไม่ควรให้มีความเหลื่อมล้ำในเรื่องดังกล่าว

โครงการอาหารกลางวันเด็กและนมโรงเรียนเป็นโครงการดีๆ ที่เกิดขึ้นจากความตระหนักในสมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ ที่มุ่งแก้ปัญหาภาวะทุพโภชนาการในเด็ก ซึ่งสมัยของอดีตนายกรัฐมนตรี ชวน หลีกภัย นั้นมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กไทยทุกคนมีสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง และสืบเนื่องจากโครงการดังกล่าวในสมัยของอดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในปี 2553 ได้จัดสรรงบประมาณนมดื่มและอาหารกลางวันฟรีให้กับเด็กประถมทั่วประเทศไทย เป็นโครงการที่สร้างความยั่งยืนให้กับเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ

นายราเมศได้กล่าวตอนท้ายว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ครั้งแรกที่มีปัญหาเกี่ยวกับอาหารกลางวันเด็ก รัฐบาลจึงต้องใส่ใจมากกว่านี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการควรตั้งทีมมาตรวจสอบทั่วทั้งประเทศว่าคุณภาพอาหารกลางวันเด็กในความจริงเป็นอย่างไร เพราะถ้าจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานหรือรู้ตัวล่วงหน้าว่าจะไปตรวจก็จะมีการจัดฉากทำแบบผักชีโรยหน้า และจะทำให้ไม่ได้รู้ความจริง ที่สำคัญในเรื่องงบประมาณก็ควรจัดสรรให้เพียงพอ เรื่องนี้สำคัญกว่าเรื่องอื่นเพราะเป็นเรื่องอนาคตของชาติ สำหรับในส่วนของพรรคจะได้ติดตามงบประมาณในส่วนนี้ในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายที่กำลังเข้าสู่การพิจารณาในวาระที่สอง