กทพ. แจงละเอียดยิบเหตุขึ้นค่าทางด่วน 1 มีนา67 นี้

กทพ. แจงละเอียดยิบเหตุขึ้นค่าทางด่วน 1 มีนา67 นี้อ้างมีความจำเป็นต้องปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษบรูพาวิถี

  • อ้างมีความจำเป็นต้องปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษบรูพาวิถี
  • ตามเงื่อนไขสัญญากองทุน TFFIF ในวันที่ 1 มีนาคม 2567
  • หลังจากเดิมที่จะปรับขึ้นค่าผ่านทางมาตั้งแต่ วันที่ 1 กันยายน ปีที่แล้ว

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม แจ้งว่า จะปรับอัตราค่าผ่านทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษบรูพาวิถี ตามเงื่อนไขสัญญากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย TFFIF ที่จะปรับขึ้น  ทุก 5 ปี โดยจะปรับอัตราค่าผ่านทางในวันที่ 1 มี.ค. 2567 หลังจากที่ชะลอการปรับขึ้นค่าผ่านทางตามสัญญา มาตั้งแต่ 1 ก.ย. 2566 เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ใช้ทางพิเศษและประชาชน ทั้งนี้ทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษบรูพาวิถี มิได้มีการปรับขึ้นค่าผ่านทางมากว่า 6 ปี และทั้งนี้การปรับขึ้นค่าผ่านทางดังกล่าว  คิดคำนวณตามดัชนีผู้บริโภค (CPI) ที่จะปรับขึ้นประมาณ 10% หรือประมาณ 5 บาท โดยมีรายละเอียดดังนี้

อัตราค่าผ่านทางพิเศษฉลองรัช

รถ 4 ล้อ ​ราคาเดิม 40 บาท ​ปรับเป็น  45 บาท
รถ 6-10 ล้อ ​ราคาเดิม 60 บาท ​ปรับเป็น 65 บาท
รถมากกว่า 10 ล้อ ​ราคาเดิม 80 บาท ​ปรับเป็น 90 บาท

ยกเว้นด่านฯ รามอินทรา 1 และด่านฯ สุขาภิบาล 5-2

รถ 4 ล้อ​ราคาเดิม 20 บาท ​ไม่มีการปรับขึ้น
รถ 6-10 ล้อ​ราคาเดิม 30 บาท​ปรับเป็น 35 บาท
รถมากกว่า 10 ล้อ​ราคาเดิม 40 บาท​ปรับเป็น 45 บาท

อัตราค่าผ่านทางพิเศษบูรพาวิถี

รถ 4 ล้อ
– กรณีเดินทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร จะใช้อัตราค่าผ่านทางเดิม
– กรณีเดินทางเกิน 20 กิโลเมตร จะปรับอัตราค่าผ่านทางต่ำสุด 5 บาท สูงสุดไม่เกิน 10 บาท     โดยคิดตามระยะทาง

รถ 6-10 ล้อ
– กรณีเดินทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร จะปรับขึ้น 5 บาท
– กรณีเดินทางเกิน 20 กิโลเมตร จะปรับอัตราค่าผ่านทางต่ำสุด 10 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 บาท   โดยคิดตามระยะทาง

รถมากกว่า 10 ล้อ
– กรณีเดินทางไม่เกิน 20 กิโลเมตร จะปรับขึ้น 5 บาท
– กรณีเดินทางเกิน 20 กิโลเมตร จะปรับอัตราค่าผ่านทางต่ำสุด 10 บาท สูงสุดไม่เกิน 25 บาท   โดยคิดตามระยะทาง


ทั้งนี้ กทพ. ได้พยายามชะลอการปรับขึ้นค่าผ่านทางของทางพิเศษทั้ง 2 สายดังกล่าว มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทางพิเศษฉลองรัช ที่ไม่ได้ปรับขึ้นค่าผ่านทางมาเป็นระยะเวลา 15 ปีแล้ว แม้ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ การบำรุงรักษาทางพิเศษเพื่อให้อยู่ในสภาพที่ดีจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปีก็ตาม ซึ่ง กทพ. ขอขอบพระคุณประชาชนผู้ใช้ทางพิเศษ ที่ให้การสนับสนุน กทพ. ด้วยดีมาโดยตลอด