คริสมาสต์ ปีใหม่-สงกรานต์ กลับบ้านได้ใช้เงินหมื่น ดิจิทัลวอลเล็ต

คริสมาสต์ ดิจิทัลวอลเล็ต


คุณหมอชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาล แถลงตัวเลขประชาชนที่เข้าไปลงทะเบียนในแอป “ทางรัฐ” เพื่อรับสิทธิในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท จากกระเป๋าเงินดิจิทัล เมื่อเย็นวานนี้ (2ส.ค.) ว่า มีจำนวนมากถึง 20.1 ล้านคน

ตัวเลขนี้ตอกย้ำให้เห็นว่า ประชาชนคนไทยมีความต้องการในเงินดิจิทัล 10,000 บาทสูงจริง ไม่ว่าใครจะมีความเห็นอย่างไร หรือ งัดเอาเหตุผลกลใดออกมาคัดค้าน ไม่ต้องการให้โครงการนี้เกิดก็ตาม

แต่ผลจากการเปิดลงทะเบียนในช่วงเริ่มต้น นับจากวันที่ 1 ส.ค.- 15 ส.ค.67 ออกมาในทางตรงกันข้าม และชี้ให้เห็นชัดเจนว่า เพียงแค่ 2 วันเท่านั้น ก็มีผู้คนเข้าไปลงทะเบียนกันจนล้นหลามแล้ว

ส่วนที่มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งออกมาทำคลิปเถื่อน โดยประกาศเตือนไม่ให้ประชาชนไปลงทะเบียนในแอป “ทางรัฐ” ด้วยการกล่าวหาเลื่อนเปื้อนว่า รัฐบาลนี้ ไปสมคบคิดกับจีนเทา หรือเว็บเถื่อนเพื่อหลอกลวงคนให้ลิงค์เข้าไปจะได้ดูดเงินออกจากบัญชีจนหมดนั้น

ย่าว่า น่าจะเข้าข่ายความผิดเรื่องการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ และทำให้ประชาชนคนไทยเกิดความสับสนเสียมากกว่า…ตรงนี้จึงน่าจะเป็นเรื่องของตำรวจไซเบอร์ กับ กระทรวงดีอี จะเข้าไปดำเนินคดีกันเอง

สำหรับการรับมือกับการลงทะเบียนของผู้คนจำนวนมากได้โดยไม่ติดขัดนั้น เห็นทีจะต้องชมการทำงานของ กระทรวงดีอี กับองค์การมหาชนที่รับผิดชอบเรื่องดิจิทัล กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง และสำนักนายกฯที่ทำงานร่วมกันมาหลายเดือน เพื่อเชื่อมต่อระบบข้อมูลผ่านสำนักงานกลางทะเบียนราษฏร ให้การลงทะเบียนขอรับสิทธิ และการยืนยันตัวตน ดำเนินไปด้วยความราบรื่น

ถึงเวลาต้องให้บริการจริง หรือจ่ายเงินให้ประชาชนจริงๆ รัฐบาลก็เชื่อว่า ระบบการชำระเงิน และ ระบบเติมเงินของ ดิจิทัล วอลเล็ต น่าจะราบรื่นได้โดยระบบไม่ล่ม เพราะขณะนี้มีแบงก์พาณิชย์ และแบงก์รัฐ เข้าลงทะเบียน เพื่อร่วมโครงการนี้แล้ว 14 แบงก์ด้วยกัน…และท้ายที่สุด ทุกแบงก์จะเข้ามาร่วมโครงการกันหมด

ถึงช่วงเวลานั้น กิจกรรมต่างๆทางเศรษฐกิจ น่าจะขับเคลื่อนได้ …ที่มี Due กันมาก่อนหน้า จะ Done ก็คราวนี้แหละ!

ว่าแต่ เงิน 10,000 บาท จะคลอดเมื่อไหร่ นัยว่า น่าจะในช่วงวันคริสมาสต์ หรือราววันที่ 23 – 24 ธ.ค.67 เพราะรัฐบาลอยากให้คนไทยได้ใช้เงินกันในช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ (2568) ยาวไปจนถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือวันปีใหม่ไทย 13 – 15 เม.ย.68

บรรดาผู้เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน ยังยืนยันด้วยว่า กระบวนการในโครงการเติมเงินนี้ ดำเนินการตามกรอบวินัยการเงินการคลังทุกข้อ พร้อมกับตั้งเป้าหมายที่จะให้มีเงินหมุนในระบบด้วยการปล่อยเงิน 10,000 บาท จากกระเป๋าเงินดิจิทัลให้แก่ประชาชนคนไทยพร้อมๆกันทีเดียวจำนวน 30 – 35 ล้านคนแรก

สำหรับกลุ่มที่สองซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน รวมถึง ผู้สูงวัย ผู้ป่วยติดเตียง และผู้พิการ ซึ่งจะให้ใช้บัตรประจำตัวประชาชนไปยืนยันตนเองกับร้านค้า โดยให้ไปลงทะเบียนได้ในช่วงวันที่ 16 ก.ย.- 16 ต.ค.67 นั้น

สำนักนายกฯกำลังเร่งหารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกที่ไม่สร้างความยากลำบากให้แก่ผู้สูงอายุ คนป่วยติดเตียง และกลุ่มคนพิการ ซึ่งจะต้องเดินทางไปแสดงตนด้วยตัวเองอีกครั้ง

ในเวลาเดียวกันก็จะหารือกับ อสม.อบต.อบจ. กระทรวงการคลัง แบงก์รัฐ อย่าง ออมสิน กรุงไทย ธอส.และ ธกส.เพื่อช่วยให้กลุ่มคนเหล่านี้ สามารถใช้จ่ายเงิน 10,000 บาทได้เช่นเดียวกับประชาชนกลุ่มอื่นๆ

สุดท้าย ผู้คนที่ไปลงทำเบียนขอรับสิทธิในโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน กระเป๋าเงินดิจิทัล หรือ ดิจิทัล วอลเล็ต น่ะ จะได้รับผลการแจ้งสิทธิตามโครงการผ่านการแจ้งเตือนในแอป “ทางรัฐ” วันที่ 22 ก.ย.67 เป็นต้นไป

อยากจะย้ำอีกครั้ง สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับสิทธิในโครงการนี้ว่า ต้องมีสัญชาติไทย มีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน อายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ณ วันปิดรับลงทะเบียน (15 ก.ย.67) มีรายได้ไม่เกินปีละ 840,000 บาท และมีเงินฝากในธนาคารรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท

ใครมั่วนิ่ม ตีเนียน หรือ เอาแต่ทิ้งไพ่จนยันเตล่ะก็ งานนี้รัฐบาลรู้หมดจ้ะ!!

คุณย่าขาซิ่ง