7 เดือนแรกปี 65 ไฟเขียวต่างด้าวลงทุนไทย 323 ราย

  • หอบเงินมาลงทุนถล่มทลาย 7.3 หมื่นล้านบาท
  • คนไทยได้เฮ! มีงานทำแล้วกว่า 3 พันคน
  • ช่วง 5 เดือนที่เหลือ คาดเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า ในช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค.) ปี 65 คณะกรรมการฯได้อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย 323 ราย  ภายใต้พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 เพิ่มขึ้น 16% หรือเพิ่มขึ้น 45 รายจากช่วงเดียวกันปี 64 ที่อนุญาต 278 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุน 73,635 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65% หรือเพิ่มขึ้น 28,925 ล้านบาท จากปีก่อนที่ลงทุน 44,710 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 3,308 คน เพิ่มขึ้น 52% หรือเพิ่ม1,135 ราย จากปีก่อนที่จ้างงาน 2,173 ราย รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย 

สำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 82 ราย เงินลงทุน 28,970 ล้านบาท, สิงคโปร์58 ราย เงินลงทุน 10,568 ล้านบาท, สหรัฐฯ 40 ราย เงินลงทุน 3,229 ล้านบาท, ฮ่องกง 26 ราย เงินลงทุน 7,263 ล้านบาท และ จีน 14 ราย เงินลงทุน 14,662 ล้านบาท ส่วนธุรกิจที่ได้รับอนุญาต เช่น บริการออกแบบ ก่อสร้าง ติดตั้งและตรวจสอบระบบกักเก็บพลังงาน สำหรับโครงการโรงผลิตไฟฟ้าแบบผสมผสานสำหรับสนามบินอู่ตะเภา, บริการขุดเจาะปิโตรเลียม, บริการให้ใช้แพลตฟอร์มแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ สำหรับการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า และสั่งซื้อสินค้าและบริการ เป็นต้น

“คาดว่า อีก 5 เดือนที่เหลือ (ส.ค. – ธ.ค.) ของปีนี้ จะมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในไทยอย่างต่อเนื่องเป็นผลจากภาครัฐมีมาตรการส่งเสริมการลงทุน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงเพิ่มการอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนไทย และเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น”