ไอเอ็มเอฟ ชี้เศรษฐกิจโลกถดถอย จากพิษโควิด-19

International Monetary Fund (IMF) Managing Director Kristalina Georgieva attends a World economic outlook during the annual meeting of the World Economic Forum (WEF) in Davos, on January 20, 2020. (Photo by Fabrice COFFRINI / AFP)
  • แย่กว่าปี 2552 ที่หดตัว 0.10%
  • เรียกร้องให้กลุ่มจี 20 ออกมาตรการกระตุ้น
  • คาดฟื้นตัวปี 2564

นางคริสตาลินา จอร์จีวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยขณะนี้เป็นที่ชัดเจนว่าเศรษฐกิจได้เข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งอาจจะย่ำแย่กว่าช่วงวิกฤตการเงินในปี 2551 แต่เศรษฐกิจอาจฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า และอาจเป็นการดีดตัวครั้งใหญ่ หากประเทศต่างๆประสบความสำเร็จในการสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และป้องกันไม่ให้ปัญหาสภาพคล่องส่งผลให้เกิดภาวะล้มละลาย และการปลดพนักงานตามมา

นางจอร์จีวา ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว พร้อมกับกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ประเทศในตลาดเกิดใหม่ และประเทศที่กำลังพัฒนา ทั้งนี้ เศรษฐกิจโลกหดตัวลง 0.10% ในปี 2552 ภายหลังเกิดวิกฤตการเงิน ซึ่งมีสาเหตุจากการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้งส์ อิงค์ ในปี 2551 และถ้าหากเศรษฐกิจหดตัวในปีนี้ ก็จะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2552

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ไอเอ็มเอฟ คาดการณ์ว่า ผลผลิตทั่วโลกจะหดตัวลงในปี 2563 ก่อนที่จะฟื้นตัวในปี 2564 เนื่องจากภาคธุรกิจระงับการดำเนินงานชั่วคราว และประชาชนถูกสั่งห้ามการเดินทางทั่วโลก เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

“ขอเรียกร้องให้กลุ่มจี20 ออกมาตรการสนับสนุนด้านการคลัง เพื่อช่วยเหลือภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้ภาคส่วนเหล่านี้สามารถยืนได้ด้วยตัวเอง และสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจโดยเร็ว และอาจต้องใช้เวลานานหลายปีจึงจะสามารถเอาชนะผลกระทบจากการล้มละลาย และการเลิกจ้างพนักงานทั่วโลก”

นอกจากนี้ ขอเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสนับสนุนกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาซึ่งกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากจากวิกฤตด้านสาธารณสุข ภาวะชะงักงันของเศรษฐกิจทั่วโลก และการที่เม็ดเงินทุนไหลเข้าสู่แหล่งลงทุนที่ปลอดภัย