ไทย-ญี่ปุ่นจับมือร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจรักษาฐานห่วงโซ่อุปทานการ ผลิต

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลัง นายนาชิดะ คาซูยะ (H.E. Mr. NASHIDA Kazuya) เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ ว่า ไทย – ญี่ปุ่น มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกันในทุกระดับ ซึ่งไทยพร้อมร่วมมือและสนับสนุนการปฎิบัติหน้าที่ของเอกอัครราชทูต เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์อย่างรอบด้านและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป พร้อมกล่าวแสดงความยินดีไปยัง นายสึกะ โยชิฮิเดะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยเชื่อมั่นว่า ภายใต้การบริหารของนายกรัฐมนตรีสึกะ จะนำพาให้ญี่ปุ่นมีความแข็งแกร่งในทุกด้าน และหวังว่าญี่ปุ่นจะสานต่อนโยบาย และส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นในทุกมิติ

นายอนุชา ยังกล่าวขอบคุณรัฐบาลญี่ปุ่นสำหรับความช่วยเหลือและความร่วมมือต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่น หน้ากาก N-95 รวมถึงการให้ความช่วยเหลือ และดูแลคนไทยในญี่ปุ่น ตลอดจนการอำนวยความสะดวกแก่คนไทยที่เดินทางกลับประเทศเป็นอย่างดี

ด้านเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นฯ กล่าวขอบคุณและรู้สึกยินดีที่ได้มาประจำการที่ประเทศไทย โดยยืนยันว่าจะดำเนินบทบาทอย่างแข็งขัน เพื่อกระชับสานต่อความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน และสร้างสรรค์ในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นอย่างรอบด้าน

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันหารือถึงมาตรการผ่อนปรนการเข้าเมืองระหว่างกัน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และรักษาฐานห่วงโซ่อุปทานการผลิต ซึ่งไทยและญี่ปุ่นได้เห็นชอบในข้อเสนอมาตรการการจัดทำความร่วมมือช่องทางพิเศษ (Fast Track Procedure) ของแต่ละฝ่าย ซึ่งขณะนี้ไทยอยู่ระหว่างการหารือกับหน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้องเพื่อหาข้อสรุปในประเด็นต่าง ๆ รวมถึงข้อห่วงกังวลของฝ่ายญี่ปุ่น โดยไทยขอบคุณที่ญี่ปุ่นเชื่อมั่นในศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทยมาอย่างต่อเนื่องหลายทศวรรษ เป็นประเทศผู้ลงทุนและเป็นคู่ค้าอันดับต้นๆ ของไทย ซึ่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ยืนยันว่า แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่รัฐบาลไทยยังคงยืนยันมุ่งมั่นส่งเสริมความร่วมมือโดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจกับญี่ปุ่นต่อไป