- กรุงเทพฯติดยอดขายระดับท็อปของโลก ภูเก็ตมาแรงเติบโตสูงสุดในเอเชีย
- แบรนด์ระดับโลกมาครบเดินหน้าบุกกรุงเทพและแหล่งท่องเที่ยว
- PRADA, LOUIS VUITTON, GUCCI, Dior,YVES SAINT LAURENT มาครบทั้งเปิดใหม่และเพิ่มพื้นที่
- เซ็นทรัลพัฒนาชี้รัฐควรลดภาษีนำเข้าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้เร็วขึ้น
นายอิศเรศ จิราธิวัฒน์ Head of Fashion and Luxury Partner Management เซ็นทรัลพัฒนา เปิดเผยแผนสร้างความสำเร็จและการผนึกกำลังพันธมิตรสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน กับกลยุทธ์ทางการตลาดที่สำคัญ ซึ่งการเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจ Trendspotting Pioneer เป็นการมองธุรกิจได้อย่างแม่นยำโดยศูนย์การค้าเซ็นทรัลพัฒนาเป็นเบอร์หนึ่งในจุดหมายปลายทางที่มีแบรนด์ระดับโลกมาเปิดสโตร์แรกในประเทศไทยกว่า 76 แบรนด์ และ Flagship Stores กว่า 44 แบรนด์ มากที่สุด
ยกตัวอย่างศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ มีแบรนด์ดังระดับโลกที่มาเปิด อาทิ Shake Shack, The Cheesecake Factory, Nitori, Lululemon, BHC Chicken รวมถึง Pop Mart ที่เปิดสาขา flagship แรกของประเทศไทยที่เซ็นทรัลเวิลด์ และสาขาล่าสุดที่ เซ็นทรัล ลาดพร้าว ประสบความสาเร็จมาก break world record ทำยอดขายเป็นอันดับ 1 จากกว่า 400 สาขาทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายแบรนด์ที่ยังต่อยอดขยายความสำเร็จไปยังสาขาอื่นๆ ทั้งในกรุงเทพ
ผลความสำเร็จดังกล่าว มาจากกลยุทธ์ Evolving Centre of Life: ดูแลทุกโครงการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าอยู่เสมอ โดยมีจุดแข็งคือการเข้าใจ Customer Insight มีความเข้าใจตลาดทั้งในประเทศและกลุ่ม Tourist จะมีอิทธิพลสูงด้วยคลื่นกำลังซื้อมหาศาลที่กำลังเข้ามาในประเทศไทย โดยมีศูนย์การค้าที่เป็น Tourist mall กว่า 10 สาขา พร้อมมอบทุกความต้องการแบบ one-stop destination และมีการวางกลยุทธ์ทั้ง Whole Journey ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นทาง-ปลายทาง
เซ็นทรัล พัฒนาเผยเทรนด์แฟชั่นลักชัวรี่แบรนด์ในไทยสู่ระดับโลก
นายอิศเรศกล่าวด้วยว่าในปีนี้มีเป้าหมายดึงแบรนด์ระดับโลกเข้ามาเปิดแห่งแรกในประเทศไทยที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลประมาณ 20 แบรนด์ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นที่เซ็นทรัลเวิลด์ อาจเป็นภูเก็ตหรือที่อื่นก่อนเป็นไปได้ ซีงในปีก่อนหน้าได้เห็นหลายแบรนด์ได้เปิดที่เซ็นทรัลภาคใต้เป็นแห่งแรกโดยเฉพาะกลุ่มลักชัวรี่หลายแบรนด์ และอีก 3-4 เดือนนี้จะเปิดอีกหลายแบรนด์ที่ภูเก็ต ซึ่งจะเป็นทั้งในหมวดของแฟชั่น ร้านอาหาร จากจีนและเกาหลีมาแรงมกกและรวมถึงสเปเชียลตี้สโตร์จำพวกร้านของเล่นมาแรงด้วยเช่นกัน
ตอนนี้ที่ภูเก็ตมีแน่นอน เท่าที่เปิดเผยได้ จะเห็น PRADA เปิดสาขาแรกที่เซ็นทรัล ภูเก็ต และมีอีกหลายแบรนด์ที่เพิ่มพื้นที่อีกหนึ่งเท่าตัว อาทิแบรนด์ LOUIS VUITTON, GUCCI, Dior, YVES SAINT LAURENT ในกลุ่ม Kering หลายๆ แบรนด์ได้ขยายพื้นที่เช่นกัน และจะมีแบรนด์อื่นๆ ตามมาอีกมากและจะมีการเปิดเผยต่อไป
อาจจะเริ่มตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ที่กลุ่มลักชัวรี่แบรนด์ได้เห็นศักยภาพของกำลังซื้อของประเทศไทย เมื่อการเดินทางถูกจำกัดลง กลุ่มลักชัวรี่แบรนด์ได้เห็นยอดขายออนไลน์มาจากประเทศไทยอยู่ในลำดับต้นๆ ของโลก เติบโตมากที่สุดในโลก แต่ที่ผ่านมามองไม่เห็นเพราะคนไทยเดินทางไปช้อปปิ้งที่ต่างประเทศกัน
“กรณีดังกล่าวหากทางภาครัฐมีความเข้าใจ ลดภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยลงมาอีกนิดหน่อย ไม่ต้องดิวตี้ฟรีเหมือนที่ฮ่องกง คิดว่าประเทศไทยจะไปได้อีกไกล แม้แต่ลักชัวรี่แบรนด์ระดับโลกยังเห็นโอกาสเข้าลงทุนเปิดสโตร์ในประเทศไทยจำนวนมาก และไม่ใช่ที่กรุงเทพฯ เพียงเท่านั้นแต่ไปต่างจังหวัดด้วยโดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ”
นายอิศเรศ กล่าวว่า ในส่วนของเซ็นทรัลพัฒนาได้เห็นเทรนด์นี้ยังฮอตอีกต่อไปอีกหลายปี ทั้งในเซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัล แอมบาวซี่และเซ็นทรัลภูเก็ต ซึ่งจะเห็นลักชัวรี่แบรนด์อีกมากมายเข้ามาเปิดสโตร์แรก ที่มีอยู่ก็ขยายพื้นท่ีเพิ่มเติม บางแบรนด์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมายอดขายเติบโตสูงถึง 5 เท่าเลยทีเดียวทั้งๆ ที่เพิ่มสโตร์เพียงนิดเดียว สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพกำลังซื้อในประเทศไทยสูงมาก
“แนวโน้มจะมาอีกมากมาย เมื่อสองวันก่อนเห็นนายกเศรษฐา ทวีสิน ที่เดินทางไปโรดโชว์ยุโรป ได้หารือกับผู้ประกอบการลักชัวรี่แบรนด์ หลายแบรนด์ที่โฟกัสไปยังภูเก็ต โดยไม่พูดถึงกรุงเทพฯด้วยซ้ำ ตอนนี้หลายแบรนด์ที่ภูเก็ตมียอดขายเติบโตที่สุดในเอเชีย
ผมว่าแนวโน้มนี้ต้งแต่ 10 ปีที่ผ่านมาเห็นการเติบโตที่ดีมาก บริษัทใหญ่ที่สุดของโลกมาร์เก็ตแคป 600-700% ถ้าเรายังอยู่ในเทรนด์นี้ก็จะเติบโตไปด้วยกัน ขนาดประเทศจีนมีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและนักท่องเที่ยวยังไม่กลับมาเต็มที่ แต่ก็ยังเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงเป็นลำดับสองรองจากรัสเซียที่ภูเก็ต ถ้ากลับมาถ้าจีนกลับมาจะยิ่งสร้างการเติบโตได้อีกมาก”
ธุรกิจลักชัวรี่แบรนด์ปัจจุบัยในกรุงเทพฯจะมีสโตร์อยู่ 3-5 สาขา ในอนาคตจะเปิดอีก 2-3 สาขา ในกรุงเทพฯ มองไปที่ภูเก็ตหลายแบรนด์ยังไม่ได้ไป อนาคตมองไปที่พัทยา และเชียงใหม่ เป็นต้น
คนไทยติดอันดับขอ Tax Refund อันดับ 4 Global Blue
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา Chief Marketing Officer เซ็นทรัลพัฒนา ลักชัวรี่แบรนด์ทั่วโลกขยายตัวเร็วมาก Product assortment จะมีมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ผู้ชาย เป็นเทรนด์มหาศาล มีข้อมูลว่สประเทศไทยติดอันดับขอคืนภาษีช้อปปิ้ง Global Blue ซึ่งเป็นบริษัทด้านการจ่ายคืนภาษีสำหรับนักท่องเที่ยว ได้ระบุว่าครนไทยอันดับ 4 ของโลก เป็นลูกค้ารายใหญ่ และในประเทศไทยในยุคนี้น่าจะเป็นการเป็นช้อปปิ้งพาราไดส์ได้เพราะมีอีโคซิสเต็มที่พร้อมรองรับอยู่ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งช้อปปิ้ง ต่างๆ
ทางด้านนางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บเซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ในส่วนของเซ็นทรัลพัฒนากำลังซื้อในปีที่ผ่านมาได้แซงหน้าก่อนโควิด-19 ซึ่งยังให้การเติบโตของประเทศสูงขึ้น เรื่องการผลักดันเรื่องการท่องเที่ยว ทกอย่างดีขึ้นหมดแล้ว แต่อยากให้ดีมากกว่านี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามามีกำลังซื้อสูงมาก การช้อปปิ้งและบริการใช้เงินมากกว่าคนไทยถึง 10 เท่า ยิ่งมาแล้วมีความสุขแล้วยิ่งอยากใช้เงิน อยากให้ลดภาษีนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยลงมาบ้าง จะช่วยให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจซื้อสินค้าได้เร็วขึ้น จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น เร็วขึ้น ฟรีวีซ่าเห็นว่าจะเปิดเพิ่มอีกเป็นมาตรการที่ดี กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากขึ้น ประเทศไทยมีดีมากมายไม่ใช่มีดีเพียงแค่ อาหาร วัฒนธรรม โรงแรม สปา กอล์ฟ แต่เป็นเรื่องของช้อปปิ้งด้วย เราอยากเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมภาครัฐให้เกิดขึ้นจริง
