เศรษฐกิจใครว่าดี วอนรัฐบาลเร่งตั้ง ครม.ดึงความเชื่อมั่นคืนมา

  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงยกแผง
  • หลังประชาชนกังวลสถานการณ์การเมือง
  • สงครามการค้ายืดเยื้อ-ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ

ม.หอการค้าไทย เผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงยกแผง เหตุประชาชนกังวลรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ สงครามการค้ายืดเยื้อ และราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ จี้รัฐบาลเร่งตั้งครม. และมีทีมเศรษฐกิจ เป็นที่ยอมรับ เพื่อดึงความเชื่อมั่นกลับคืน คาด 6 เดือนรมต.จากพรรคต่างๆ เร่งสร้างผลงานไปโอดประชาชนรับเลือกตั้งใหม่

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ที่สำรวจจากกลุ่มตัวอย่าง 2,241 คนทั่วประเทศ ว่า ในเดือนพ.ค.62 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงทุกรายการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และต่ำสุดในรอบ 19 เดือนนับจากเดือนพ.ย.60 โดยดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 64.8 ลดจาก 66.2 ในเดือนเม.ย.62 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางาน อยู่ที่ 73.3 ลดจาก 74.6 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 95.0 ลดจาก 96.7 ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.62 อยู่ที่ 77.7 ลดจาก 79.2 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในปัจจุบัน อยู่ที่ 52.3 ลดจาก 53.5 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต อยู่ที่ 88.8 ลดจาก 90.5

สาเหตุที่ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นลดลงทุกรายการ เพราะผู้บริโภคกังวลใน 3 ปัจจัยหลัก คือ เสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลชุดใหม่ ที่มีเสียงสนับสนุนใกล้เคียงกับฝ่ายค้าน, สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่มีแนวโน้มยืดเยื้อและขยายไปสู่ในภาคธุรกิจ และราคาสินค้าเกษตรที่ทรงตัวในระดับต่ำ  จึงต้องการให้รัฐบาลใหม่แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีความสามารถเป็นที่ยอมรับของสังคม โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมา รวมถึงการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ และเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นต้น

“สถานการณ์ทางการเมือง ประชาชนกังวลมากสุด จากที่รัฐบาลมีเสียงสนับสนุนปริ่มน้ำ และหากมีการเมืองนอกสภา เช่น มีการประท้วง ศูนย์คงต้องปรับเป้าจีดีพีใหม่ จากเดิมที่ประเมินไว้ 3.5%  ขณะที่สงครามการค้า หากสหรัฐฯขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนอีก 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และจีนตอบโต้กลับอย่างรุนแรง ก็คงต้องปรับเป้าจีดีพีใหม่เช่นกัน เพราะจะกระทบต่อการส่งออก ราคาสินค้าเกษตร และการท่องเที่ยวของไทย”