สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 31 กรกฏาคม ประเทศเวียดนามพบผู้เสียชีวิตเป็นรายแรกจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เวียดนามซึ่งมีประชากรเกือบ 100 ล้านคน ได้รับความชื่นชมจากนานาประเทศถึงการป้องกันการแพร่ระบาดที่ประสบความสำเร็จ จากการไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศมาติดต่อกัน 100 วัน
ทั้งนี้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา พบผู้ป่วยติดเชื้อรายแรกในประเทศรายแรกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้รัฐบาลเกิดการตื่นตัวอย่างมาก เว็บไซต์ worldometers.info รายงานถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเวียดนาม ในวันที่ 31 กรกฏาคม มีผู้ป่วยสะสม 509 ราย หายแล้ว 373 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ผู้ป่วยลำดับที่ 428 เป็นชายอายุ 70 ปี ที่ดูเหมือนว่าได้สัมผัสติดต่อโรคมาจากเมืองดานัง โดยกระทรวงสาธารณสุขเวียดนามได้รายงานตัวเลขพบผู้ติดเชื้อใหม่ 45 คน ถือเป็นยอดผู้ติดเชื้อสูงที่สุดที่พบใน 1 วันนับตั้งแต่เริ่มการระบาด
ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่า เวียดนามอาจชะล่าใจหลังประสบความสำเร็จในการหยุดยั้งเชื้อไวรัสในครั้งแรก ที่บริการต่างๆ ในประเทศกลับมาดำเนินการตามปกติอย่างรวดเร็ว ผู้คนสวมหน้ากากกันน้อยลง และกิจกรรมการเดินทางภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น
ทางการ นครโฮจิมินห์ ศูนย์กลางธุรกิจของเวียดนาม ได้สั่งปิดสถานบันเทิงตอนกลางคืนและบาร์ต่าง ๆ รวมทั้งห้ามการชุมนุมของผู้คนเกิน 30 คน เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ของนครโฮจิมินห์ กล่าวด้วยว่า มีประชาชนราว 18,000 คนเดินทางจากเมืองดานังมายังโฮจิมินห์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งทางการจะติดตามตรวจสอบบุคคลเหล่านี้ว่ามีอาการของโควิดหรือไม่
รัฐบาลเวียดนามประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า ได้สั่งอพยพนักท่องเที่ยวราว 80,000 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเวียดนาม ออกจากพื้นที่ในเมืองดานัง ในภาคกลางของประเทศ หลังพบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิดหลายคน โดยในแถลงการณ์ระบุว่า ขั้นตอนการอพยพนั้นน่าจะใช้เวลาถึง 4 วัน
