เด็กจบใหม่ออมอย่างไร!!

เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ www.set.or.th หน้าห้องเรียนนักลงทุนมีข้อแนะนำสำหรับการออมของเด็กจบใหม่เงินเดือน 15,000 บาท  ที่คุณนายพารวยเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ให้น้องๆนำมาใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ  โดยสามารถสร้างวินัยการออมง่ายๆ  เริ่มจากคาถาที่ต้องยึดในหัวใจคือออมก่อนใช้และต้องออมให้ได้อย่างน้อย 10% ของเงินเดือน  

นอกจากนี้ ยังมี  “3 ขั้นตอนวางแผนการออมฉบับเด็กจบใหม่ ที่น่าสนใจดังนี้  1. ต้องจัดลำดับความสำคัญของเป้าหมายโดยเลือกเป้าหมายสำคัญที่ต้องการทำให้สำเร็จก่อน ถ้าในอนาคตมีรายได้มากขึ้น  จึงค่อยๆ เพิ่มเงินออมให้มากขึ้น โดยสิ่งสำคัญที่สุด คือควรเก็บเงินสำรองฉุกเฉินเป็นลำดับแรก ก่อนนำเงินที่เหลือไปเติมเต็มเป้าหมายอื่นๆ 

2. ศึกษาทางเลือกการออมและลงทุนที่มีช่องทางหลากหลาย เพราะการทิ้งเงินออมไว้ในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ เท่ากับว่าเราปล่อยโอกาสดีๆ ที่จะทำให้เงินออมงอกเงย เพราะปัจจุบันดอกเบี้ยเงินฝากต่ำมากและจะต่ำอย่างนี้ไปอีกนาน  ดังนั้นจึงควรทิ้งเงินฝากไว้แค่พอให้ใช้จ่ายประจำวันและเผื่อฉุกเฉินเท่านั้น  

โดยทางเลือกการออมเงินและการลงทุน เริ่มตั้งแต่การออมภาคบังคับผ่านกองทุนประกันสังคมและการออมเงินกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของนายจ้างที่จะมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพบริหารจัดการเงินลงทุนให้ หรือออมผ่านเงินฝากประจำแบบปลอดภาษี  หรือลงทุนกับสหกรณ์ออมทรัพย์

  และที่คุณนายพารวยเคยแนะนำสำหรับมือใหม่หัดลงทุนคือเข้าโปรแกรมลงทุนออมหุ้นกับ  บริษัทหลักทรัพย์(บล.) หรือออมกับกองทุนรวมทุกเดือนกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) รวมทั้งการออมในรูปการทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์

  3.วางแผนออมเงินสม่ำเสมอ  โดยเลือกช่องทางการออมที่สอดคล้องกับเป้าหมายและความเสี่ยงที่เรายอมรับได้  วิธีง่ายๆที่แนะนำ คือ “สมัครบริการที่ช่วยหักเงินออมจากเงินเดือนโดยอัตโนมัติ” ซึ่งช่วยให้เรามีวินัยการออมทุกเดือน และหากไปใช้กับบัญชีลงทุน ก็จะช่วยให้เงินทำงานสร้างดอกผลอย่างต่อเนื่อง  ขณะที่เรายังทำงานประจำไปด้วยได้

ตัวอย่าง เช่น  นายเอ อายุ 22 ปี พนักงานเอกชน ได้เงินเดือน 15,000 บาท  และคาดว่าเงินเดือนจะปรับขึ้น 10% ต่อปี  โดยนายเอตั้งเป้าหมายต้องการมีเงินออมเพื่อเกษียณอย่างน้อย 4 ล้านบาท ภายในเวลา 38 ปี  เพื่อมีเงินใช้จ่ายหลังเกษียณ เดือนละ 15,000 บาท ไปอีก 20 ปี 

โดยกำหนดแผนการออมเพื่อให้ได้ผลตอบแทนบรรลุเป้าหมาย  ดังนี้   1.ออมเงินผ่าน PVD  โดยสะสม 5% ของเงินเดือน หรือเพิ่มเป็น 10% เมื่อรายได้เพิ่ม 2. ออมเงินผ่านการลงทุนรูปแบบอื่น เช่น ลงทุนในหุ้นเดือนละ 434 บาท มีอัตราผลตอบแทนที่คาดหวังเฉลี่ย 12.88% ต่อปี  และลงทุนในกองทุนรวม นโยบายผสมระหว่างหุ้น 80% และตราสารหนี้ 20% อีกเดือนละ 1,998 บาท  โดยมีอัตราผลตอบแทนที่คาดหวังเฉลี่ย 6.86 ต่อปี  ก็จะทำให้บรรลุเป้าหมายได้

เริ่มออมเงินตั้งแต่วัยเริ่มต้นทำงานก็จะทำให้เรามีเวลาในการออมที่ยาวนานขึ้นแถมมีทางเลือกลงทุนที่หลากหลายกว่าเพราะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงได้เต็มที่คัมภีร์ออมก่อนรวยกว่าและนำเงินออมมาลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนจะนำเราไปสู่อิสรภาพทางการเงินได้เร็วขึ้น!!

#คุณนายพารวย#เด็กจบใหม่#ตลาดหลักทรัพย์ฯ #ห้องเรียนนักลงทุน#Thejournalistclub