เจ็บนี้หนักกว่าคาด “เหริน เจิ้งเฟย” ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยหลังโดนสหรัฐฯประกาศแบนจ่อหั่นรายได้ลงกว่า3หมื่นล้านดอลลาร์

“เหริน เจิ้งเฟย” เจ้าของและผู้ก่อตั้งหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ กล่าวยอมรับเป็นครั้งแรกจากการประเมินผลกระทบท่ีจะเกิดขึ้นว่า การโดนสหรัฐฯ​ ประกาศแบนหัวเว่ยนั้นส่งผลกระทบรุนแรงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้มาก และออกมาเตือนว่ารายได้ของหัวเว่ยในปีนี้และปีหน้าจะลดลงเหลือประมาณ 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า “เหริน” ได้ให้สัมภาษณ์ที่สำนักงานใหญ่เมืองเซินเจิ้นว่า หัวเว่ยไม่ได้คาดหวังว่าทางสหรัฐฯ จะทำลายบริษัทที่มีความแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ ซึ่งแบล็กลิสต์ของทางการสหรัฐฯ นับว่ามีประาสิทธิภาพมากกับการกล่าวหาว่าหัวเว่ยได้อนุญาตให้ทาวงการจีนทำการสอดแนมการสื้อสารของสหรัฐฯ ได้ การประกาศห้ามบริษัทอเมริกันอาทิกูเกิล รวมไปถึงบริษัทผู้ผลิตชิป ARM ซึ่งเป็นบริษัทจากอังกฤษประกาศยุดิความสัมพันธ์กับหัวเว่ย

นายเหริน ระบุว่า การจัดส่งสมาร์ทโฟนระหว่างประเทศของหัวเว่ย จะลดลง 40% และสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าทางหัวเว่ยเตรียมลดการส่งมอบสมาร์ทโฟนลง 40-60%

สำหรับทางตลาดในประเทศไทย ในวันเดียวกัน ทางหัวเว่ยได้ให้ทางประชาสัมพันธ์ส่งข่าวถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อแบรนด์หัวเว่ย ดังนี้

ผู้บริโภคไทยยังคงมั่นใจในสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตหัวเว่ย หลังจากที่ผู้จัดจำหน่ายของหัวเว่ยรายใหญ่ในไทยทั้ง 5 ราย (ซินเน็ค เจมาร์ท ทีจีโฟน ซีเอสซี และบานาน่า) ประกาศแผนประกันคืนเงินเต็มจำนวนให้แก่ลูกค้าไทย หากพบปัญหาการใช้งานหรืออัพเดตแอปพลิเคชั่นยอดนิยมจากกูเกิลและเฟสบุ๊ค โดยหลังจากที่ได้ประกาศเงื่อนไขการรับประกันออกไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าบรรยากาศหน้าร้านค้าของผู้จัดจำหน่ายหลายสาขาทั่วไทยต่างก็มีความคึกคักขึ้นอย่างชัดเจนตลอดช่วงสุดสัปดาห์ เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่มองว่านโยบายประกันดังกล่าวช่วยเพิ่มความมั่นใจและทำให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น


คุณศรินรัตน์ อัครไกรพิชญ์ หนึ่งในลูกค้าประจำของหัวเว่ย ได้ให้สัมภาษณ์ที่ร้าน Huawei Experience Store สาขาสยามพารากอนว่า “จริง ๆ ก็อ่านข่าวอยู่นะว่าตอนนี้ (หัวเว่ย) มีปัญหา แต่พอน้องเขาเดินมาบอกว่าเราจะได้ประกันคืนเงินนาน 2 ปี ก็ทำให้เราตัดสินใจได้เร็วขึ้นว่าจะซื้อหัวเว่ยเลย” นอกจากนี้ คุณพัชริยา ยิ่งอินทร์ ลูกค้าหัวเว่ยที่มาซื้อมือถือหัวเว่ยเครื่อง Y7 Pro ให้คุณพ่อก็แสดงความคิดเห็นว่า “ประกันตัวนี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้มากขึ้น จากที่คิดจะซื้ออยู่แล้วก็ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นอีก” ขณะที่ลูกค้าหัวเว่ยในไทยรายอื่นๆ ส่วนใหญ่ให้สัมภาษณ์ว่าที่ซื้อสมาร์ทโฟนหัวเว่ยเพราะจอใหญ่ กล้องสวย และตอบโจทย์การใช้ส่วนตัวของตน


ในขณะที่ชาวเน็ตไทยตามโซเชียลเน็ตเวิร์กมีความเห็นไปในทางเดียวกันว่าแผนประกันคืนเงินถือเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าไทยได้ดีและแสดงให้เห็นว่าหัวเว่ยให้ความสำคัญกับลูกค้า นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตบางส่วนเข้ามาสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงื่อนไขการรับประกันและเสนอแนะผ่านความเห็นในเฟซบุ๊กว่าหัวเว่ยเดินมาถูกทางแล้ว หากจะให้ดีขึ้นควรจะเพิ่มระยะเวลาประกันเครื่องให้อีก 1 ปี รับรองว่าจะได้ใจลูกค้าไทยไปอย่างแน่นอน


สำหรับการรับประกันดังกล่าวจะครอบคลุมผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ระหว่างวันที่ 12 มิถุนายน – 1 กันยายน 2562 เป็นระยะเวลา 2 ปี ในกรณีที่ไม่สามารถใช้งานหรืออัพเกรดแอปพลิเคชันและบริการยอดนิยมอย่าง กูเกิล เพลย์ (Google Play), จีเมล (Gmail), กูเกิล แมปส์ (Google Maps), กูเกิล แกลเลอรี (Google Gallery), กูเกิล โครม (Google Chrome), ยูทูป (Youtube), เฟสบุ๊ค (Facebook), อินสตาแกรม (Instagram), และวอทส์แอป (WhatsApp) เป็นต้น โดยผลิตภัณฑ์รุ่นที่ครอบคลุมในการรับประกัน ได้แก่โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตของหัวเว่ยที่ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ดังต่อไปนี้ P20, P20 Pro, P30, P30 lite, P30 Pro, Mate 20, Mate 20 Pro, Mate 20 X, Nova 3, Nova 3i, Nova 4, Y Max, Y5 2019, Y5 Lite, Y5 Prime 2018, Y7 Pro 2018, Y7 Pro 2019, Y9 2018, Y9 2019, Y9 Prime 2019, MediaPad M5, MediaPad M5 Lite 10, MediaPad M5 Lite 8, MediaPad M5 Pro, MediaPad T3 7, MediaPad T5 10, MediaPad T2 7, MediaPad T3 10 และ MediaPad T3 7