“อนุทิน” เอาใจหมอ-พยาบาลเดินเครื่องบรรจุพนักงานราชการกระทรวงสาธารณสุขเป็นข้าราชการ

12 Jul 2013 --- Portrait of doctors and nurse --- Image by © Corbis
  • พร้อมรณรงค์ประชาชนดูแลสุขภาพ หมั่นออกกำลังกาย 
  • ชื่นชมผู้เสียสละ เลือกจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยเงินส่วนตัว
  • เมินสวัสดิการ เปิดทางรัฐมุ่งบริการผู้จำเป็น

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข กล่าวปาฐกถาในการประชุมวิชาการแพทยสภาประจำปี 2562 ว่า ระบบการให้บริการด้านสาธารณสุขของไทย มีคุณภาพเป็นที่เชิดหน้าชูตา เพราะมีการวางรากฐานมาอย่างดี มีประเทศไหนในโลก ที่องค์พระประมุข สละทรัพย์ส่วนพระองค์มาดูแลระบบการให้บริการด้านสาธารณสุข นี่คือเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้เราก้าวหน้าในเรื่องนี้ ไม่ต้องอายชาติไหน

ทั้งนี้ต้องขอบคุณทุกท่าน ที่ไม่ใช้สิทธิ์การรักษาพยาบาลของรัฐ แต่เลือกจ่ายค่าบริการส่วนตัว เพราะการเสียสละของท่าน ทำให้รัฐมีเงิน ไปใช้จ่ายกับผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้จริงๆ ซึ่งถ้าหากทุกคนในประเทศ ใช้สวัสดิการรัฐกันหมดรับรองว่างบแค่ไหน ก็ไม่มีทางพอ

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีเสียงบ่น เรื่องรอนาน โรงพยาบาลแออัด ซึ่งในเรื่องนี้ตนเข้าใจทุกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ แต่ขอวิงวอนให้ย้อนมองว่าภาครัฐให้บริการอย่างมีมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งคำตอบ คือ เราทำตามมาตรฐานสากล และไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง จะเป็นชาวต่างชาติ เราก็รักษา แม้จะยอมขาดทุนบ้างก็ตาม วันนี้รัฐมนตรีกับกระทรวงสาธารณสุขลงเรือลำเดียวกัน และเราไม่ก้าวก่ายการทำงาน กลับกันยังพร้อมช่วยเหลือกัน และกัน

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า องค์การเภสัชกรรมถูกตั้งคำถามเยอะ ว่าไปวิจัยยา ผลิตยาทำไม ซื้อของเอกชน ถูกกว่า ง่ายกว่า แต่อยากให้มองว่า ถ้าเกิดมีวิกฤติโรคระบาดจนขาดแคลนยา หากประเทศไทย สามารถผลิตยา เพื่อดูแลตัวเองได้ จะดีกว่าหรือไม่ การทำงานขององค์การเภสัชกรรม เป็นเรื่องของความมั่นคงในระยะยาว

มีข่าวออกมาตลอดว่า พนักงานราชการของกระทรวงสาธารณสุข ต้องการบรรจุเป็นข้าราชการ ตอบแทนความมุ่งมั่นทุ่มเทในการทำงานเป็นระยะเวลายาวนาน ผมไม่เคยมองข้าม และได้คุยกับรองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม มาหลายครั้ง ถ้าได้เจอกันก็จะคุยแต่เรื่องนี้ ซึ่งท่านได้รับไปพิจารณา แต่ผมก็จะถามต่อไป ข้อเท็จจริงคือ เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับงบ แต่มันอยู่ที่กระบวนการทางราชการมากกว่า “

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงนโยบายยกระดับ อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.)  ว่า เรามี อสม.กว่าล้านคนกระจายทำงานอยู่ทั่วประเทศ ถ้าเปลี่ยน อสม.เป็นหมอครบอครัว ดูแลคนป่วยชั้นปฐมภูมิในพื้นที่ได้ ย่อมจะลดภาระแพทย์ พยาบาล และช่วยลดภาระการเดินทางของผู้ป่วย และเราได้ยกระดับสถานีอนามัยเป็น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) แล้ว จึงมีความมุ่มมั่นให้สถานพยาบาลข้างต้น ช่วยคัดกรองผู้ป่วยก่อนถึงโรงพยาบาลศูนย์

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ล่าสุด ตนได้ให้นโยบายกับกระทรวงสาธารณสุข คือ ต้องทำให้ประชาชน รู้จักดูแลสุขภาพตัวเอง ต้องให้ประชาชนทราบว่า 1.ยาดีแค่ไหน ก็สู้ไม่กินยาไม่ได้ 2.เตียงโรงพยาบาลนุ่มแค่ไหน ก็สู้เตียงไม้กระดานไม่ได้ และ 3.ขยันแล้วท่านจะแข็งแรง ส่วนขี้เกียจ มักจะจบลงที่หาหมอ ดังนั้น ต้องหมั่นออกกำลังกายให้มากเข้า