“อนุทิน” ย้ำนโยบายกัญชา ใช้เพื่อการแพทย์ แก้เจ็บป่วยเท่านั้น

  • ย้ำขอสังคม ช่วยกันหาความรู้
  • โปรดเข้าใจกัญชา มีทั้งคุณและโทษ
  • ชี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเลือกใช้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 ก.ค.65) ที่อาคาร 11 – 12 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค อารีนา เมืองทองธานีจ. นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวใน พิธีเปิดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติและการประชุมวิชาการประจำปีการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติครั้งที่ 19 โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า กระทรวงสาธารณสุข และรัฐบาล ยืนยันว่าเราสนับสนุนให้ใช้กัญชาในทางการแพทย์เท่านั้น โดยใช้เพื่อบรรเทาอาการเจ็บป่วย ใช้ในผลิตภัณฑ์ เพื่อสุขภาพ การนำสมุนไพรมาประกอบอาหาร ตามเทรนด์การสร้างเสริมสุขภาพ 

ทั้งนี้การปลดล็อกของรัฐบาล ทำให้มีโอกาสได้นำภูมิปัญญาของแพทย์พื้นบ้าน การแพทย์ทางเลือกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เป็นตำรับยาที่ได้รับการยอมรับ และบรรจุในบัญชียาหลักไปแล้ว พร้อมกับมีการใช้ในคลินิกกัญชาทั่วประเทศกว่า 1.2 พันแห่ง รักษาผู้ป่วย ไปมากกว่า 1 แสนราย 

“ขอยืนยันในหลักการ การใช้กัญชาอย่างถูกต้องและปลอดภัย เพื่อส่งเสริมสุขภาพ และอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นผลบวกกับประชาชนพี่น้องเกษตรกร ผู้ประกอบการ นักลงทุน เอาเข้าจริง ประเทศไทยปลดล็อกกัญชากันมาตั้งแต่เดือนก.พ. 2562 เพื่อมุ่งใช้ประโยชน์ด้านการวิจัย การพัฒนา แต่ที่เป็นความคืบหน้าจริงๆ คือการปลดพืชกัญชา กัญชงออกจากความเป็นยาเสพติด ยกเว้นสารสกัดที่มีค่า THC สูงกว่า 0.2%” นายอนุทิน กล่าว

จากนั้น ได้ออกกฎเกณฑ์ออกมามากมาย ทั้งระเบียบกระทรวงฯ ทั้งการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อควบคุมการใช้กัญชาให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยภาครัฐไม่เคยสนับสนุนการใช้กัญชาเพื่อการนันทนาการ ไม่เคยสนับสนุนให้ไปใช้ในเรื่องที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ รวมถึงไม่เคยให้ใช้กัญชาแล้วไปออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท นอกเหนือจากการรักษาอาการเจ็บป่วย รักษาโรคนอนไม่หลับ การนำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ เป็นการประหยัดงบประมาณ ส่งเสริมพัฒนาองค์ความรู้ของสมุนไพร ที่มีมูลค่าเพิ่มในตัวมันเอง 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาสมุนไพรไทย มักจะถูกละเลย เพิกเฉย แต่มาตอนนี้เราจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น คนที่เข้ามาดูแลกรมการแพทย์แผนไทย และแพทย์ทางเลือก จะต้องมีวิชั่นในการนำภูมิปัญชาไทยมาใช้ประโยชน์สูงสุด ทั้งเรื่องการแพทย์และในเรื่องเศรษฐกิจ 

“มีบางคนบอกว่า กระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาล ทำนโยบายโดยขาดความรับผิดชอบ  เป็นการกล่าวหาโดยไม่มองถึงข้อเท็จจริง แทนที่จะนำข้อมูลที่ครบถ้วนไปบอกแก่ประชาชน แทนที่จะพูดในเรื่องที่เป็นประโยชน์ กับพูดแต่เรื่องไม่ดีต่างกับหลายคนที่มองเห็นข้อดี แล้วนำมาใช้เพื่อรักษาโรค ใช้เป็นทางเลือกด้านเศรษฐกิจ เรื่องแบบนี้ ควรจะสื่อสารกันบ้าง อย่าปิดหูปิดตาประชาชน คำว่าสองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม อีกคนมองเห็นดวงดาว เรื่องนี้ก็เช่นกัน ใครที่ยังสงสัยให้มาดูงานนี้ ถ้ามีกล้องก็มาสัมภาษณ์ จะได้เห็นความจริงอีกด้านหนึ่ง กระทรวงฯ ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย เราสร้างโอกาส และพยายามตีกรอบ พร้อมสนับสนุนคนที่ใช้ให้เป็นประโยชน์ แต่ไม่เคยสนับสนุนผู้ที่ใช้ให้เกิดโทษ” นายอนุทิน กล่าว