องค์การอนามัยโลก สรุปภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดไม่เกี่ยวกับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า

  • แนะนำให้ฉีดวัคซีนต่อไป
  • ไทยฉีดแล้ว 44,963 ราย
  • ติดตามอาการหลังฉีดต่อ

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด 19 ของประเทศไทย ให้กลุ่มเป้าหมายระยะแรกใน 13 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ – 13 มีนาคม 2564 ฉีดวัคซีนรวม 44,963 ราย ส่วนใหญ่ฉีดได้เกือบครบแล้ว เหลือเพียง 3 จังหวัด คือ ปทุมธานี สมุทรสาคร และกทม. จะฉีดครบภายในสัปดาห์หน้าตามแผนที่วางไว้ จากการทบทวนข้อมูลร่วมกับผู้เชี่ยวชาญยังไม่พบผู้มีอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน

สำหรับการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดนั้น คนไทยมีความเสี่ยงต่ำกว่าชาวยุโรป อันตรายคือเมื่อเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันเป็นก้อนเลือดกระจายไปอุดตันหลอดเลือดในปอด ทำให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจนล้มเหลวและอาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยภาพรวมประชาชน 1 ล้านคนอาจมีโอกาสเกิดลิ่มเลือดอุดตันที่เท้าได้ประมาณ 10 คน เช่นหากฉีดวัคซีนให้กับคน 3 ล้านคนโอกาสเกิดลิ่มเลือดอุดตันคือ 30 คนถือว่าอยู่ในภาวะปกติ 

ดังนั้นกรณีที่พบลิ่มเลือดอุดตัน 22 คนในผู้รับการฉีดวัคซีน 3 ล้านคน จึงไม่ได้สูงผิดปกติ แต่หากเกิดลิ่มเลือดอุดตันเพิ่มขึ้นจาก 30 คนเป็น 60 คน คือเพิ่มเป็น 2 เท่า ถือว่าผิดปกติ จะต้องทำการสืบค้นหาสาเหตุ รวมทั้ง คณะผู้เชี่ยวชาญจากกรมควบคุมโรคและกระทรวงสาธารณสุข ได้ติดตามสอบทานข้อมูลไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งองค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (European Medicines Agency) ยืนยันข้อมูลตรงกันว่าวัคซีนบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า มีความปลอดภัย และไม่มีหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดมากผิดปกติจากสถานการณ์ที่เคยเป็น แนะนำให้ฉีดวัคซีนต่อไป

#TheJournalistClub #JNC # กรมควบคุมโรค #โควิด19