“หอการค้าไทย” เสนอปฏิรูปประเทศ 5 ด้าน

“หอการค้าไทย”เสนอปฏิรูปประเทศ 5 ด้าน หวังพาไทยหลุดพ้นกับดักประเทศรายได้น้อย ด้าน”ภูมิธรรม”ปลุกข้าราชการ-เอกชนคิดนอกกรอบ เอาอินฟลูเอนเซอร์ช่วยโปรโมต-ขายสินค้าไทย

  • หวังพาไทยหลุดพ้นกับดักประเทศรายได้น้อย
  • ”ภูมิธรรม”ปลุกข้าราชการ-เอกชนคิดนอกกรอบ
  • เอาอินฟลูเอนเซอร์ช่วยโปรโมต-ขายสินค้าไทย

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 41 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เมื่อวันที่ 18 พ.ย.66 ว่า ไทยติดกับดักประเทศรายได้น้อยมาอย่างยาวนาน จึงถือเป็นความท้าทายที่จะหวังพึ่งพาเครื่องยนต์เศรษฐกิจเดิมเพียงอย่างเดียว ทั้งการส่งออก การท่องเที่ยวไม่ได้อีกต่อไป จำเป็นต้องปฏิรูป (รีฟอร์ม) ในระยะยาว 5 ด้าน ได้แก่

1.การค้า การลงทุน ทั้งเร่งทำเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ดึงการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ดึงคนที่มีความสามารถพิเศษมาที่ไทย สนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยไปลงทุนในต่างประเทศ

2.ด้านเกษตรและอาหาร โดยใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน

3.ด้านการท่องเที่ยวและบริการ ซึ่งปี 67 คาดว่านักการท่องเที่ยวสูงถึง 35 ล้านคน

4.ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะต้องเร่งผลักดันเมกะโปรเจ็กต์ของรัฐบาล แก้ไขปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วมซ้ำซาก จัดทำโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล

และ5.ความยั่งยืน (Sustainable) ซึ่งไม่ใช่ทางเลือกแต่เป็นทางรอด โดยรัฐต้องช่วยส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนาคน

“การที่นายกฯไปต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นการลงทุน เป็นเซลส์แมน ต้องชมการทำงานที่หนักมาก หากให้คะแนนก็เกิน 100 เพราะมีความเข้าใจธุรกิจ และผลักดันโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม เช่น โครงการแลนด์บริดจ์ เราต้องช่วยกันเพิ่มขีดความสามารถให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดความเจริญแบบสนั่นหวั่นไหว”

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ “พาณิชย์ยุคใหม่ การค้าไทยเชื่อมโลก” ภายในงานเดียวกันว่า ว่า การค้ายุคใหม่ ต้องขับเคลื่อนด้วยความเร็ว สิ่งใดที่เป็นอุปสรรคทางการค้า รัฐบาลจะแก้ไขปรับปรุง เพื่อเอื้ออำนวยและลดอุปสรรคทางธุรกิจ ขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างศึกษาว่ามีกฎหมายใดภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวง ที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขบ้าง ภายในสิ้นเดือนธ.ค.นี้ น่าจะแก้ไขได้อย่างน้อย 4 ฉบับ เพื่อปลดพันธการให้กับภาคเอกชน

สำหรับแนวทางในการขับเคลื่อนพาณิชย์ยุคใหม่ของกระทรวงพาณิชย์ ประกอบด้วย การเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการด้วยข้อมูลต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุน และทำธุรกิจ, การเร่งส่งเสริมการค้า การลงทุนของไทยในระดับภูมิภาคและโลก ซึ่งการไปต่างประเทศของนายกฯ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศต่างๆ และทำหน้าที่เป็นเซลส์แมน อยากให้ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ใช้ธรรมเนียมปฏิบัติเดิมๆ คือ ไม่ใช่สังสรรค์แล้วจบ แต่อยากให้นำไปสู่ลู่ทางการค้า และให้เอกชนสานต่อ

“กระทรวงพาณิชย์ก็ไม่ปล่อยให้นายกฯทำคนเดียว ใช้ทีมพาณิชย์ ที่มีทั้งทูตพาณิชย์ และพาณิชย์จังหวัด รักษาตลาดเดิม เปิดตลาดใหม่ ล่าสุด ผมได้พบกับภาคเอกชนของจีน 5-7 มณฑล หารือถึงการขยายความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน อย่างซีโนเปค บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของจีน มีปั๊มน้ำมัน และมินิมาร์ทในปั๊มทั่วประเทศ ก็ขอให้เอาสินค้าไทยไปวางขาย เป็นตู้โชว์สินค้าไทย หรือจัดโปรโมชันเติมน้ำมันแล้วแจกข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งเขาก็สนใจ และบอกว่าไม่มีปัญหา”


นอกจากนี้ ยังอยากให้ทั้งภาครัฐ และผู้ประกอบการคิดนอก เพื่อหาเครื่องมือใหม่ๆ ในการทำงาน ขายสินค้า เช่น เอาอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามมากๆ มาช่วยโปรโมต ช่วยขายสินค้า เป็นการทำประชาสัมพันธ์ยุคใหม่ เข่าถึงกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็วในเวลาไม่กี่วินาที พาณิชย์ยุคใหม่ต้องการการปรับตัวไปสู่สิ่งใหม่ ต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย