หนี้กองทุนน้ำมันแตะ 1 แสนล้าน สิ้นมิ.ย.นี้ “สุพัฒนพงษ์”วอนคนไทยช่วยประหยัดพลังงาน

  • หวังช่วยลดต้นทุนได้ 2 แสนล้าน
  • ค่าการกลั่นปีนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 3.39 บาท/ลิตร
  • มองสงครามรัสเซีย-ยูเครน ยืดเยื้อจับตากลุ่ม G7 หารือสิ้นเดือนนี้

นายสุพัฒนพงษ์​ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวในรายการ “คุยเรื่องบ้าน คุยเรื่องเมือง คุยทุกเรื่องกับรัฐมนตรี”ว่า ขอให้ประชาชน เอกชน ร่วมมือภาครัฐ ฝ่าวิกฤติพลังงานแพง โดยการลดกำไรร่วมประหยัด ขณะนี้ให้ภาครัฐลดใช้พลังงานร้อยละ 20 หากประชาชนลดใช้ไฟฟ้า-น้ำมัน อย่างละร้อยละ 10 จะช่วยชาติลดต้นทุน 2 แสนล้านบาท

ส่วนค่าการกลั่นปีนี้เฉลี่ย 3.39 บาท/ลิตร จากช่วงปกติเฉลี่ย 2 บาท/ลิตร ไม่ได้สูงมากถึง 8-9 บาท/ลิตร แต่อย่างใด หากไม่มีโรงกลั่นไทยต้องนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปทั้งหมด เสี่ยงมากขึ้นต่อเสถียรภาพ​ทั้งด้านราคาและความมั่นคง

โดยในขณะนี้เตรียมมาตรการเพิ่มเติมช่วยผู้มีรายได้น้อย เช่น กลุ่มรถจักรยานยนต์ เพิ่มขึ้น ปตท.ร่วมมือตรึงก๊าซธรรมชาติ(NGV) ต่อ เพื่อช่วยค่าก๊าซผู้มีรายได้น้อย ดูแลราคาน้ำมัน ส่วนต้นทุนค่าไฟที่เพิ่มขึ้น ขอความร่วมมือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)​ บมจ.ปตท. ร่วมดูแลต่อ ส่วนเงินกองทุนน้ำมันที่ดูแลราคาน้ำมัน/แอลพีจีสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ คาดทะลุ 1 แสนล้านบาทแน่นอน

ทั้งนี้ตั้งแต่เกิดโควิด-19 รัฐได้ใช้เงินดูแลราคาพลังงานรวมกว่า 2 แสนล้านบาทแล้ว ทั้งดูแลค่าไฟฟ้า, แอลพีจี, น้ำมัน ใช้เงินหลายรูปแบบทั้งกองทุนน้ำมัน ภาษีต่างๆ ซึ่งการดูแลต้องดูถึงเสถียรภาพ​การเงินการคลังไปด้วย เพราะหากการเงินมีปัญหา ​ก็อาจประสบปัญหาเช่นเดียวกับเพื่อนบ้าน ไม่มีเงินซื้อน้ำมัน น้ำมันขาดแคลน

สำหรับไทยเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบสุทธิร้อยละ 92 นำเข้าก๊าซธรรมชาติ​เพื่อผลิตไฟฟ้าร้อยละ 35 ท่ามกลางราคาที่สูงขึ้นและเงินบาทอ่อนค่า ทำให้ต้นทุนสูงขึ้​น จึงต้องบริหารจัดการให้ดีที่สุด ทั้งลดค่าครองชีพเศรษฐกิจขยายตัว โดยจะเห็นได้ว่าราคาของไทยก็ต่ำเมื่อเทียบกับภูมิภาคนี้ แต่ราคาสูงเมื่อเทียบกับมาเลเซียและบรูไน เพราะเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันเองได้ มีการส่งออก จึงนำรายได้มาอุดหนุน​ราคาในประเทศ

นอกจากนี้มองว่าสงครามรัสเซีย-ยูเครนจะยังคงยืดเยื้อ กระทรวงพลังงานได้ติดตามใกล้ชิดมาโดยตลอด ซึ่งปลายเดือนมิ.ย. 2565 จะมีการประชุมกลุ่มประเทศมหาอำนาจทางอุตสาหกรรม และเศรษฐกิจของโลก 7 ประเทศ (G7) ถือเป็นผู้นำกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบกับพลังงาน จะหาทางออกให้กับประชากรทั้งโลก จึงต้องรอดูผลการประชุมดังกล่าวร่วมด้วย ดังนั้น สิ่งสำคัญคือความร่วมมือร่วมใจของประชาชน ผู้ประกอบการ และรัฐบาลที่ต้องอยู่ด้วยความเห็นอกเห็นใจ ประคับประคองไปดูแลซึ่งกันและกัน ให้อยู่ในลักษณะที่พอรับกันได้