“สุริยะ”เปิดกล่องของขวัญปีใหม่จากกระทรวงอุตสาหกรรม ชิ้นแรกรับปี2563

  • เปิดตลาดนัดสินค้าโรงงาน 77 จังหวัด
  • ขายของคุณภาพราคาถูกให้ประชาชน
  • กสอ.ลุยสร้างเอสเอ็มอี อีโคซิสเท็ม ปี63

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ได้จัดเตรียม ของขวัญปีใหม่ 2563 ของกระทรวงอุตสาหกรรม ให้กับประชาชน โดยของขวัญชิ้นแรก ได้มีนโยบายให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงฯทุกกรม และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ 77 จังหวัด ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆอาทิสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้า และผู้ผลิตสินค้าจากโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ นำสินค้าจากโรงงานไปจำหน่ายให้กับประชาชนในราคาที่ถูกมาก เพราะไม่ผ่านมือของพ่อค้าคนกลาง แต่ยืนยันว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ทุกประเภท

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าว จะจัดทำในรูปแบบตลาดนัด เพื่อจำหน่ายสินค้าโรงงานทุกประเภทเช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม ของใช้ในชีวิตประจำวัน เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าฯลฯ และจัดขึ้นในเดือนธ.ค.นี้ โดย จุดจำหน่ายหลักๆจะอยู่ที่กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระราม6 ส่วนในต่างจังหวัด อาจจะจัดตามตลาดนัดที่กระจายอยู่ในจังหวัดต่างๆ ที่มีอยู่ในขณะนี้ ซึ่งสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ทั่วประเทศอยู่ระหว่างพิจารณารูปแบบ และสถานที่

“ของขวัญปีใหม่จากกระทรวงอุตสาหกรรมโครงการแรก จะเน้นการจำหน่ายสินค้าราคาถูกก่อน เพื่อบรรเทาค่าครองชีพของประชาชน และต้อนรับเทศกาลปีใหม่ที่ปกติประชาชนจะหาซื้อสินค้าในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อใช้ในเทศกาลเฉลิมฉลองปีใหม่อยู่แล้ว ยืนยันว่าราคาจำหน่ายจะมีราคาถูกกว่าซื้อตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านค้าทั่วๆไปอย่าง แน่นอน เพราะเจ้าของโรงงาน พนักงาน เป็นผู้จำหน่ายเอง “

นอกจากนี้กระทรวงฯยังอยู่ระหว่างพิจารณาของขวัญปีใหม่ด้านอื่นๆเพิ่มเติม อาทิ สินเชื่อพิเศษสำหรับผู้ประกอบการ แต่จะต้องพิจารณาความเป็นไปได้อีกครั้ง เพราะเนื้องานของกระทรวงฯจัดทำของขวัญให้ประชาชนค่อนข้างยาก แต่จะพยายามทำอย่างเต็มที่

นายสุริยะ กล่าวว่า ขณะที่แผนการดำเนินงานใน ปีงบประมาณ 2563 ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม( กสอ.)ก็ จะเร่งขับเคลื่อนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) และสตาร์ตอัพ ให้เติบโตและได้รับการพัฒนาแบบกระจายวงกว้าง โดยกสอ.จะส่งเสริมให้เอสเอ็มอี และวิสาหกิจชุมชน ปรับตัวด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจ สร้างโอกาสทางการตลาดและเพิ่มมูลค่าธุรกิจ

ล่าสุดได้ปรับปรุงและสร้างระบบเอสเอ็มอี อีโคซิสเท็ม หรือระบบนิเวศ ขึ้น เพื่อส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอี โดยใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มในการเอื้อให้ผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจและเข้าถึงบริการภาครัฐได้สะดวกและรวดเร็วกว่าเดิม อาทิ ปรับการให้บริการในรูปแบบดิจิทัลเซอร์วิส ทั้งการรับสมัครเข้าร่วมโครงการ/กิจกรรมต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์เพื่อให้มีความสะดวก พร้อมทั้งเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบ ไอ-อินดัสทรี ที่ เป็นระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งปัจจุบัน กสอ. มีเอสเอ็มอีที่เป็นสมาชิกในระบบรวม 400,000 ราย แบ่งเป็นรูปแบบบุคคล 320,000 ราย และรูปแบบกิจการ 80,000 ราย

“กสอ.จะเป็นตัวเชื่อมระหว่างเอสเอ็มอีและบริษัทสตาร์ตอัพที่มีศักยภาพ เพื่อให้เอสเอ็มอีลองเปิดใจเลือกใช้คลาวด์ เบส แอพพลิเคชั่น ที่พัฒนาโดยสตาร์ตอัพไทย ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่ง่ายต่อการใช้งาน ช่วงแรกอาจให้มีการทดลองใช้ก่อน รวมถึงการเชื่อมโยงเทคโนโลยีกับงานวิจัยที่มีอยู่จากสถาบันการศึกษาและหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งรัฐและเอกชนกับเอสเอ็มอี เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจไปสู่เชิงพาณิชย์ “

นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับเอสเอ็มอีที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาต่อยอดพัฒนาธุรกิจ โดย กสอ.จะเชื่อมโยงข้อมูลกับธนาคาร หรือแหล่งเงินทุนต่าง ๆ เพื่อใช้ในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อให้เอสเอ็มอีแต่ละรายได้อย่างเหมาะสม โดยปี 2563 คาดว่าจะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ของกสอ.2,000 กิจการ และบุคลากรภาคธุรกิจอุตสาหกรรมและที่เกี่ยวข้อง20,000 ราย”