

เลขาธิการสำนักงาน กกพ. เปิดวิสัยทัศน์ นำพา สำนักงาน กกพ. ให้ได้รับความเชื่อมั่น ลั่นพร้อมดูแลค่าครองชีพ ราคาพลังงาน ให้ประชาชน ได้ใช้ไฟฟ้าในราคาที่เหมาะสม เป็นธรรม พร้อมดูแล ราคาพลังงาน ให้กระทบต่อค่าครองชีพประชาชนให้น้อยที่สุด
- เผยความท้าทายภาคพลังงานไทย จากนี้คือการสร้างความสมดุล ความเป็นธรรม ความเท่าเทียมในการแข่งขัน
- ลั่นพร้อมสร้างความราบรื่น ให้เกิดการเปลี่ยนผ่าน ด้านพลังงานของชาติอย่างยั่งยืน
- ชี้การผลิตไฟฟ้า ด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิล ในระบบยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ
วันนี้ (25 มิ.ย.67) นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการ กำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้จัดงานแถลงข่าว พร้อมพบปะสื่อมวลชน เป็นครั้งแรก เพื่อชี้แจงวิสัยทัศน์ ทิศทาง และนโยบายการบริหารงานของสำนักงาน กกพ. เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่
ทั้งนี้ นายพูลพัฒน์ เปิดเผยว่า สำนักงาน กกพ. ได้วางเป้าหมายที่จะกำกับดูแล ค่าไฟฟ้าของประเทศ ให้มีความเหมาะสม เป็นธรรม และดูแลราคาพลังงาน ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนคนไทยให้น้อยที่สุด เนื่องจากมองว่าปัจจุบันไฟฟ้า เป็นปัจจัยที่มีความสำคัญ และจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของประชาชน
ในขณะที่ ในยุคการเปลี่ยนผ่านทางด้านพลังงาน (Energy Transition) เป็นผลมาจากความต้องการการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยี ทางด้านพลังงาน เพื่อรองรับความต้องการพลังงานสะอาด รับมือกับภาวะโลกร้อน ที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงรวดเร็ว
นายพูลพัฒน์ กล่าวด้วยว่า สิ่งเหล่านี้ ล้วนแต่ทำให้ภาคเศรษฐกิจ และภาคพลังงานของไทย ต้องการการปรับตัวขนานใหญ่ สำนักงาน กกพ. จึงมีบทบาทหน้าที่สำคัญ ในการดูแลการเปลี่ยนผ่าน ให้มีความราบรื่น สมดุล เป็นธรรมให้มากที่สุด
“วันนี้โลกกำลังคุยกัน อยู่สองเรื่องหลัก คือ Go Green และ Go Digital ภาคธุรกิจกำลังเปลี่ยนแปลงปฏิรูป แบบถอนรากถอนโคน ซึ่งเราต้องเตรียมความพร้อมในโอกาสสำคัญ ของจุดเปลี่ยนให้กับประเทศ ไม่ปล่อยผ่านโอกาสของภาคอุตสาหกรรม การลงทุนมีพลังงานสีเขียว รองรับความต้องการ ซึ่งพลังงานสีเขียว มีข้อดี แต่ก็มีบางส่วนที่สวนทางเป้าหมาย ของการบริหารจัดการภาคพลังงาน ที่ต้องการความมีเสถียรภาพ มีความมั่นคง ที่สำคัญคือ ต้องมีระดับราคาที่รับได้ด้วย สำนักงาน กกพ. ต้องเข้ามาดูแลให้เกิดความราบรื่นในการเปลี่ยนผ่าน” นายพูลพัฒน์
นายพูลพัฒน์ กล่าวต่อว่า ตรได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการนำพา สำนักงาน กกพ. เพื่อเป็นหน่วยงานแห่งความเชื่อมั่นและไว้วางใจของสังคม ในการกำกับกิจการพลังงาน ภายใต้ยุทธศาสตร์ Trusted OERC 4 ด้าน อันได้แก่
1. Trusted Regulation สร้างความเชื่อมั่นในการกำกับดูแลกิจการพลังงาน ด้วยการประสานความร่วมมือกับภาคนโยบาย ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ด้วยการวางบทบาทสำนักงาน กกพ. เป็นองค์กำกับดูแลกิจการพลังงานภายใต้นโยบาย พร้อมกับจะมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัล มาประยุกต์ใช้ และยกระดับการกำกับดูแล ตามภารกิจให้ครบถ้วน และเกิดความยั่งยืน
2. Trusted Research & Innovation ทบทวนกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ ขยายเครือข่ายและแลกเปลี่ยนวิธีการ และแนวทางการกำกับกิจการพลังงานกับองค์กรกำกับดูแลด้านพลังงานในต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการทำวิจัย ร่วมกันกับกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อหล่อหลอมเป็นองค์ความรู้ และภูมิปัญญาที่เหมาะสม ต่อการกำกับกิจการพลังงานของไทย
3. Trusted Management มุ่งพัฒนาการบริหารองค์กร ให้สามารถกำกับดูแลกิจการพลังงาน ด้วยความโปร่งใสตรวจสอบได้ ควบคู่กับการยกระดับพัฒนา ขีดความสามารถบุคลากร ให้ตอบสนองต่อการรองรับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ทันสมัย และสร้างองค์กรให้เป็นองค์กรแห่งอนาคตที่มีการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลตอบโจทย์ในทุกภารกิจของสังคม
4. Trusted Engagement สร้างการมีส่วนในการคุ้มครองผู้ใช้พลังงาน และพัฒนาเครือข่ายพันธมิตร การคุ้มครองผู้ใช้พลังงาน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานกองทุนพัฒนาไฟฟ้า และสร้างองค์ความรู้ความเข้าใจต่อพื้นที่ชุมชนอย่างยั่งยืน สื่อสารประชาสัมพันธ์การกำกับกิจการพลังงานอย่างต่อเนื่อง ผ่านสื่อมวลชนครอบคลุมทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค
ในส่วนของความท้าทาย ภาคพลังงานไทย ในระยะต่อไปคือ การสร้างความสมดุล ความเป็นธรรม และความเท่าเทียมในการแข่งขัน ทั้งในภาคพลังงาน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันโดยรวมให้ประเทศ และผู้ประกอบการภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมภาคเอกชน
ให้สามารถดำเนินการเปลี่ยนผ่าน ไปสู่ทิศทางพลังงานสะอาด อย่างมีผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งยังมีหลายปัจจัย ที่อาจส่งผลกระทบต่อความมีเสถียรภาพ และความมั่นคงทางด้านพลังงาน อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อต้นทุน ระดับราคาพลังงานของประเทศ
นอกจากนี้ ยังมองว่า กลไกและการแข่งขันในภาคพลังงาน เป็นสิ่งที่สำคัญ และจะนำมาซึ่งการกระจายผลประโยชน์จากการแข่งขันไปสู่ประชาชน ผู้ใช้พลังงานส่วนใหญ่ ของประเทศอย่างเป็นธรรม
ทั้งนี้ สำนักงาน กกพ. จึงต้องดูแลความเหมาะสม ในการบริหารจัดการสัดส่วน ของการผลิตไฟฟ้า ด้วยพลังงานทดแทน ให้สอดคล้องตามนโยบาย รวมทั้งการเพิ่มการแข่งขัน ในภาคพลังงานตามช่วงเวลาที่เหมาะสม ควบคู่กันไปด้วย
นายพูลพัฒน์ กล่าวว่า การผลิตไฟฟ้าด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิล ในระบบยังคงมีความสำคัญอยู่ โดยเฉพาะเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ ยังเป็นเชื้อเพลิงหลัก ที่มีความจำเป็นในการผลิตไฟฟ้าของประเทศ อีกทั้งยังทำหน้าที่ในการรักษาความมีเสถียรภาพ และความมั่นคงในระบบไฟฟ้า แต่การบริหารจัดการได้ยากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากสัดส่วนปริมาณของพลังงานหมุนเวียน ที่จะเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ สำนักงาน กกพ. จึงวางแนวทางในการกำกับดูแลภาคพลังงาน โดยคำนึงถึงทั้งคุณภาพไฟฟ้าที่ดี ในระดับราคาที่ยอมรับได้ ควบคู่กับการสร้างการยอมรับ ในการกำกับกิจการพลังงานและทำให้ทุกภาคส่วน เดินหน้าไปด้วยกันได้อย่างยั่งยืน ทั้งภาคเศรษฐกิจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญสุดคือประชาชนผู้ใช้พลังงาน ส่วนใหญ่ของประเทศเพื่อให้สำนักงาน กกพ. เป็นที่พึ่งให้กับประชาชนอย่างแท้จริง
สำนักงานคณะกรรมการ กำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : กกพ. เตือนประชาชนระวัง! “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” อ้างชื่อสำนักงาน หลอกแอดไลน์ดูดเงินในบัญชี