“สุรพงษ์”คาดปีใหม่คนเดินทางขนส่งสาธารณะคึกคัก

“สุรพงษ์”เตรียมพร้อมมาตรการเดินทางในชวงเทศกาลปีใหม่ 2567  คาดประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา​และท่องเที่ยวด้วยระบบขนส่งสาธารณะทั่วประเทศรวม 15.84 ล้านคน พร้อมเพิ่มจุดตรวจเช็คพอยต์ และตรวจสุขภาพพนักงานขับรถก่อนให้บริการ

นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมเตรียมความพร้อมการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567ว่า ในช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นวันหยุดยาวต่อเนื่อง (ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 66 – 1 ม.ค.67) คาดการณ์ว่า จะมีปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะทั่วประเทศรวม 15.84 ล้านคน แบ่งเป็นระบบขนส่งสาธารณะในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล 14.1 ล้านคน และการเดินทางระหว่างจังหวัด 1.8 ล้านคน 

ขณะที่สถิติการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน กรณีที่มีการเสียบจากข้อมูล WHO ไทยมีอัตราผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 25 คนต่อ 1 แสนคน จากเป้าหมายในปี 2570 12 คนต่อ 1 แสนคน ซึ่งมองว่า ไม่ควรมีผู้เสียชีวิต โดยอาจจะมีการปรับแผนใหม่ ส่วนมาตรการป้องกัน​อุบัติเหตุ​ ได้จัดมาตรการคุมเข้มรถสาธารณะ กำชับให้ตรวจความพร้อมของรถและพนักงานขับรถก่อนเดินทางทุกคันทุกคน ตาม Checklist ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร เพื่อความปลอดภัย

​นอกจากนี้ยังให้ รถ บขส.บางส่วนเข้าจอดส่งผู้โดยสารที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ก่อนที่จะเข้าสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) ซึ่งผู้โดยสาร สามารถเชื่อมต่อการเดินทางด้วยรถไฟ รถไฟฟ้าสายสีแดง /รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน / รถเมล์ ขสมก. หรือจะลงที่ชานชาลาขาเข้า หมอชิต 2 เพื่อต่อรถแท็กซี่ และรถเมล์ ขสมก.

สำหรับมาตรการอำนวยความสะดวกการเดินทางให้แก่ประชาชน ขณะนี้รถบขส.เปิดให้จองตั๋วล่วงหน้าจากเดิม 90 วัน เป็นไม่มีกำหนด ทำให้สามารถจองตั๋วได้ตลอด ตั๋วโดยสารไม่เต็ม เพราะจัดรถตามความต้องการประชาชน​

ส่วนรถไฟฟ้า จะมอบหมายกรมการขนส่งทางราง ประสานการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดงและสีน้ำเงิน จากเดิมให้บริการเวลา 05.00 น. เป็นให้เปิด 04.00 น.เป็นต้นไป เพื่อรองรับการเดินทางประชาชนช่วงปีใหม่ นอกจากนี้ จะนำสถิติในช่วงเทศกาลปีใหม่ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้เดินทาง สถิติการเกิดอุบัติเหตุ มาปรับใช้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2567

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นกับรถโดยสาร 2 ชั้นช่วงปีใหม่เหมือนกับอุบัติเหตุรถโดยสารเสียหลักตกข้างทาง ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 32 ราย เสียชีวิต 14 ราย เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้น จะพิจารณาจัดโซนนิ่งให้วิ่งไม่ให้วิ่งในพื้นที่เสี่ยง ส่วนกรณีจะยกเลิกการให้บริการโดยสาร 2 ชั้นหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เช่น ลักษณะภูมิประเทศ เส้นทาง ทางโค้ง ทางลาดชัน และ จำนวนการบรรทุกผู้โดยสาร เป็นต้น ทั้งนี้หากพบว่ารถโดยสาร 2 ชั้น ไม่ดี อนาคตคงจะไม่มีการจดทะเบียนรถโดยสาร 2 ชั้น และทำให้หมดจากระบบต่อไป

ด้านนายจิรุฒม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เปิดเผยว่า ได้เน้นย้ำให้มีการตรวจคนขับให้มีความพร้อมก่อนให้บริการ โดยปีนี้เน้นย้ำผู้ประกอบการ จะมีการตรวจสภาพรถ โดยเฉพาะการตรวจล้อยาง ด้วยระบบดิจิทัลมากกว่า 1,000 ชุด หากพบว่า รถไม่มีความพร้อมจะต้องเปลี่ยนรถ และจะมีการพ่นห้ามใช้งานจนกว่าจะใช้งานได้ส่วนคนขับชั่วโมงการทำงานจะต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด 10 ชั่วโมงเปลี่ยนคนขับรถและหากครบ 4 ชั่วโมง จะต้องมีการพักรถ 30 นาที รวมถึงจะมีการตรวจสุขภาพและวัดไข้ คนขับรถ โดยโรงพยาบาลตำรวจเพื่อตรวจความปลอดภัยก่อนให้บริการ

นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือรถ บขส. และรถร่วม ขอให้กำชับให้ผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัย​ ทุกที่นั่งก่อนให้บริการ เบื้องต้น คาดการณ์​ประชาชนเดินทางด้วยรถ บขส. ประมาณวันละ 7 หมื่นคน ในช่วงวันที่ 28-29 ธ.ค. นี้ คาดประมาณ 4,000 เที่ยวต่อวัน พร้อมเตรียมรถเสริมประมาณ 700 เที่ยวต่อวัน