สนามบินสุวรรณภูมิเล็งขอเที่ยวบินเสี่ยงไปลงอู่ตะเภา

นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิ กล่าวยอมรับว่า ได้มีการหารือกับนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เพื่อขอความเห็นสำหรับมาตรการยกระดับการคัดกรองผู้โดยสารจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ที่มีการระบาดของไวรัส COVID-19 ซึ่งความเข้มข้นของมาตรการคัดกรองนั้นสุวรรณภูมิเห็นว่าหลังจากนี้สามารถยกระดับให้เที่ยวบินที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง สามารถจัดให้เที่ยวบินเหล่านี้ลงจอด ในท่าอาศยานขนาดเล็กหรือท่าอากาศยานทหาร เช่น สนามบินอู่ตะเภา เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในมาตรการคัดกรอง โดยเที่ยวบินใดที่มีรายงานผู้โดยสารพบอาการผิดปกติ เช่น มีไข้และต้องทำการเฝ้าระวัง ก็จะแยกไปทำการตรวจสอบ หรือเข้าสู่กระบวนการเฝ้าระวัง โดยสามารถยกระดับมาตรการสูงสุดเหมือนกับการจัดการเที่ยวบินที่เคยกลับจากอู๋ฮั่น และที่สำคัญสุด การแยกท่าอากาศยานก็ช่วยให้ไม่เกิดการปะปนของผู้โดยสารในพื้นที่อาคารผู้โดยสารซึ่งทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

“ความจำเป็นในการจัดท่าอากาศยานเฉพาะเพื่อรองรับเที่ยวบินกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยงนี้ สามารถนำมาใช้รองรับการเดินทางกลับของแรงงานไทย พี่ลักลอบเข้าเมือง (ผีน้อย) มีการแจ้งความประสงค์ที่จะขอเดินทางกลับประเทศกับทางการเกาหลีใต้กว่า 5,000 คนแล้ว”

นอกจากนี้ยังมีประเด็นสำคัญ เรื่องการแก้ไขปัญหาการเดินทางที่มีการเชื่อมต่อเส้นทาง เปลี่ยนเครื่อง โดยเที่ยวบินมีการจอดแวะในประเทศไทย (Transfer Flights) และเป็นเที่ยวบินที่ออกเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง และเมื่อมาถึงประเทศไทย จะทำการเดินทางไปยังประเทศปลายทาง แต่ถูกประเทศปลายทางปฏิเสธการให้เข้าประเทศ ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นแล้ว เพราะหากไม่สามารถเดินทางต่อไปยังประเทศปลายทางได้ ก็จะเกิดภาระทางด้านสาธารณสุขกับประเทศไทยต้องทำการเตรียมพื้นที่รองรับ และทำการกักตัว 14 วันรอผลการวินิจฉัยโรค ซึ่งถือเป็นประเด็นที่ต้องเร่งแก้ไขปัญหาเร่งด่วนและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิก็ได้มีการหารือในประเด็นนี้ กับ กพท.ไปแล้วเช่นกัน

ด้านนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย( กพท.) กล่าวว่า ปัญหาเรื่องการ เที่ยวบินที่มีการเปลี่ยนเครื่องในประเทศนี้ หากมีความจำเป็นที่ต้องแก้ปัญหาโดยการไม่ให้ใบอนุญาตสำหรับเที่ยวบิน ที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง และมาทำการเปลี่ยนเครื่องที่ไทย ในส่วนนี้จะต้องใช้ประกาศของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อทำการอ้างอิง หลังจากนั้น กพท.จะดำเนินการแจ้งให้สายการบินทราบว่าจะไม่ให้ใบอนุญาตสำหรับเที่ยวบินลักษณะดังกล่าว ซึ่งสายการบินจะได้นำไปเป็นแนวปฏิบัติในการให้บริการต่อไป โดยประเด็นนี้ กพท. กำลังนัดหมายเพื่อหารือกับกระทรวงสาธารณสุขโดยด่วน เพื่อกำหนดรายละเอียดของมาตรการต่อไป