สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อ 28 ก.ค.63 ศาลสูงมาเลเซียในกรุงกัวลาลัมเปอร์ พิพากษาตัดสิน นายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย วัย 67 ปี กระทำความผิดในทุกข้อหา โดยตัดสินจำคุก 12 ปี และสั่งปรับเงิน 210 ล้านริงกิตหรีอประมาณ 1,550 ล้านบาท
สำหรับคดีแรก ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในกองทุนเพื่อการพัฒนาของรัฐ หรือ ‘1 Malaysia Development Berhad’ (1 MDB) ซึ่งนายนาจิบ ราซัคถูกตั้งข้อหา 7 ข้อหา ทั้งการฟอกเงิน ละเมิดความไว้วางใจ และใช้อำนาจในทางมิชอบ จากการรับโอนเงิน 10 ล้านดอลลาร์จากบริษัทเอสอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล (SRC International) ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของกองทุน 1 MDB มาเข้าบัญชีธนาคารส่วนตัว
ผู้พิพาษาศาลสูง โมฮาหมัด นัซลาน โมฮาหมัด กาซาลี กล่าวว่า หลังจากได้พิจารณาตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งหมดในคดีนี้แล้ว เห็นว่าอัยการประสบความสำเร็จในการพิสูจน์ข้อกล่าวหาโดยปราศจากข้อสงสัยอันสมเหตุสมผล
ด้าน นายนาจิบได้กล่าวมาตลอดตั้งแต่ถูกดำเนินคดีแล้วว่า จะยื่นอุทธรณ์ทุกคำตัดสินต่อศาล พร้อมกับยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหา ในขณะที่ความผิดในแต่ละข้อหาที่นายนาจิบกำลังเผชิญอยู่นี้ มีโทษปรับหนักและโทษจำคุกสูงถึง 20 ปี
สำหรับการพิพากษาในคดีดังกล่าวของนายนาจิบที่รับโอนเงิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากบริษัทเอสอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล มาเข้าบัญชีส่วนตัวนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเงินที่นายนาจิบถูกกล่าวหาว่าได้มีการยักยอกเงินจากกองทุน 1 MDB ซึ่งคณะอัยการมาเลเซียระบุว่า มีเงินกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ถูกยักยอกจากกองทุน 1 MDB มาเข้าบัญชีส่วนตัว
อีกทั้งข้อหาทั้ง 7 ข้อหาที่นายนาจิบถูกศาลสูงตัดสินกระทำผิดนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อหาทางอาญาที่นายนาจิบ อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียกำลังเผชิญอยู่ หลังโดนฟ้องดำเนินคดีทั้งหมดรวมแล้วถึง 42 ข้อหา
