- แบนหรือไม่แบน3สารเคมีทางการเกษตร
- คาดอาจไม่ทันมีผลบังคับใช้ 1 ธ.ค.
- “สุริยะ” ขอไม่ชี้นำ รอข้อมูลผลกระทบเยียวยาเกษตรกร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. กลุ่มเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากการแบน 3 สารเคมีทางเกษตร คือ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต รวม 7 เครือข่าย ได้นั่งรถบัสมาที่กระทรวงอุตสาหกรรม หลังจากเดินทางไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาลมาแล้ว โดยตัวแทนได้เข้ายื่นหนังสือกับนายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการวัตถุอันตราย ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการฯ ในวันที่ 27 พ.ย. นี้ ที่กระทรวงอุตสาหกรรม โดยมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรมเป็นประธานครั้งแรก หลังจากใช้พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย ฉบับใหม่ พ.ศ.2562
นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.) กล่าวภายหลังรับหนังสือจากตัวแทนกลุ่มเกษตรกรฯว่า คณะกรรมการวัตถุอันตราย ได้รับหนังสือเกี่ยวกับการพิจารณาการใช้ 3 สารมาจากกรมวิชาการเกษตร บางส่วนแล้ว คือ ร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ในการยกระดับวัตถุอันตรายจากชนิดที่ 3 เป็นชนิดที่ 4 (ห้ามนำเข้า ห้ามผลิต ห้ามจำหน่าย ห้ามครอบครอง) และผลการประชาพิจารณ์จากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนใหญ่คัดค้านการแบน 3 สาร แต่ยังไม่มีผลมาตรการรองรับเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งสารที่จะนำมาทดแทนการใช้ 3 สารเข้ามาตามที่คณะกรรมการฯ มีมติให้กรมวิชาการเกษตร ได้จัดทำมาตั้งแต่การประชุมในวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา คาดว่า จะนำมาเสนอในที่ประชุมในวันที่ 27 พ.ย. เพื่อให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายทั้ง 29 คนได้พิจารณาร่วมกันว่า จะมีแนวทางอย่างไร
สำหรับ ข้อมูลที่กรมวิชาการเกษตรเสนอมาไม่มีข้อที่ระบุว่า ให้ยืดระยะเวลาการแบน 3 สารออกไป มีมาแค่บางส่วน เช่น ร่างประกาศที่ได้จัดทำ และผลการประชาพิจารณ์ ซึ่งก็ต้องมาดูว่า ในที่ประชุมจะมีการนำเสนอข้อมูลอะไรเพิ่มเติมบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่กลุ่มผู้ชุมชนกำลังแยกย้ายการชุมชน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ได้เดินทางกลับจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)มาถึงกระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้ให้สัมภาษณ์ โดยมีกลุ่มผู้ชุมชนบางส่วนร่วมรับฟัง และเข้ายื่นหนังสือโดยนายสุริยะ กล่าวภายหลังการรับหนังสือว่า ในฐานะตนเป็นประธานคณะกรรมการวัตถุอันตรายในวันการประชุมครั้งนี้ ก็ไม่สามารถชี้นำผลการประชุมได้ เนื่องจากต้องรอให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายจากทุกฝ่ายรับฟังข้อมูลจากกรมวิชาการเกษตร ซึ่งเป็นเจ้าของต้นเรื่องก่อนว่า มีข้อมูลมานำเสนออย่างไรบ้าง เช่น มาตรการรองรับผลกระทบ การใช้สารทดแทน เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาข้อมูลร่วมกัน ซึ่งการประชุมครั้งนี้ คาดว่า จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่า จะยืนมติแบน หรือไม่แบน หรือแบน แต่ยืดระยะเวลา หรือแบน แล้วยึดตามเวลาเดิมวันที่ 1 ธ.ค. นี้
นายสุริยะ กล่าวว่า ขณะนี้ตนยังไม่สามารถตอบอะไรได้ชัดเจนว่า ความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรม จะมีแนวคิดในเรื่องนี้อย่างไร เพราะต้องรอดูข้อมูลจากกรมวิชาการเกษตรเสนอมาก่อน คณะกรรมการฯ ทุกคนจะมีการรับฟังแล้วค่อยมาตัดสินใจว่า จะแต่ละคนมีความเห็นในการดำเนินการอย่างไร คาดว่า จะใช้วิธีการโหวตความเห็นของคณะกรรมการแต่ละรายเช่นเดิม และถ้าไม่ยินยอมให้เปิดเผยชื่อ ก็ไม่สามารถเปิดเผยผลโหวตแต่ละคนได้ ตอนนี้ความเห็นแบ่งออกเป็นหลายฝ่าย บางฝ่ายเห็นด้วยให้แบนการใช้ 3 สาร เพราะมองถึงผลกระทบทางด้านสุขภาพ บางฝ่ายก็ไม่เห็นด้วย เพราะมองว่า จะกระทบหลายอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เช่น อาหารสัตว์
ผู้สื่อถามข่าวถามว่า ได้หารือร่วมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ซึ่งคัดค้านการยืดเวลาแบน 3 สารหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ยังไม่ได้หารือกัน ส่วนการหารือร่วมกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ระบุสั้นๆว่า จะให้นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้เข้าร่วมประชุม
