ร้านขายยาพร้อมรับผู้ป่วยขอใบสั่งยาจากรพ.เอกชนมาซื้อเอง

  • สภาเภสัชกรรมยันร้านยามีมาตรฐานพอ
  • ผู้ป่วยเลิกกังวลเภสัชกรจ่ายยาเก่งไม่แพ้หมอ
  • พาณิชย์ชี้พ้น31 ก.ค.รพ.เอกชนไม่ส่งราคายาปรับวันละ2พัน

นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า  เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 62 ตนได้หารือกับคณบดี คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ กรรมการสภาเภสัชกรรม เกี่ยวกับความพร้อมของร้านขายยาแนปัจจุบัน ที่มีประมาณ 10,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับผู้ป่วยที่นำใบสั่งยาของแพทย์โรงพยาบาลเอกชน ไปซื้อยาเองนอกโรงพยาบาล โดยสภาเภสัชกรรมยืนยันว่าขณะนี้ร้านขายยาจำนวนมากมีมาตรฐานของร้านขายยาแผนปัจจุบัน(จีพีพี) และคาดว่า ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าร้านขายขาทั่วประเทศจะมีมาตรฐานนี้ครบทั้งหมด 100%

“ตอนนี้มีเภสัชกรที่จบออกมาจำนวนมากและผู้ที่จบออกมาก็มีความรู้เรื่องยาแต่ละตัวไม่แพ้แพทย์ จึงขอให้สบายใจวา น้านขายยาทีาประชาชน จะขอนำใบสั่งยาของแพทย์โรงพยาบาลเอกชน ไปซื้อเองนั้น มีศักยภาพและปริมาณเพียงพอที่จะให้บริการประชาชน และในอนาคต หน่วยงานต่างๆอาจผลักดันให้แพทย์ในโรงพยาบาลรัฐออกใบสั่งยาให้ผู้ป่วยไปซื้อยาที่ร้านด้วย อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ โรงพยาบาลเอกชนบางรายอ้างว่าร้านขายยาจำนวนมากยังไม่มีมาตรฐาน ซึ่งทางสภาพเภสัชกรรมบอกว่านั่นเป็นการกล่าวอ้างเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว”

สำหรับระยะเวลาสิ้นสุดที่กำหนดให้โรงพยาบาลต้องส่งข้อมูลราคาซื้อ ขายยามาให้กรมภายในวันที่ 31 ก.ค. 62 นั้น กรมได้ให้เวลาถึง 24.00 น. ดังนั้น ในวันที่ 1 ส.ค.นี้จะมีการรวบรวมข้อมูลทั้งหมดว่าโรงพยาบาลใดส่งหรือไม่ส่ง โดยหากโรงพยาบาลรายใดไม่ส่งข้อมูลก็จะเชิญมาชี้แจง และหากยังไม่จัดส่งมาให้อีก จะมีโทษปรับวันละ 2,000 บาทตลอดการฝ่าฝืน อย่างไรก็ตามล่าสุดโรงพยาบาลเอกชนได้ส่งข้อมูลมาเกือบหมดแล้ว

“เมื่อได้ข้อมูลแล้ว ก็จะนำมาจัดทำเป็นคิวอาร์โค้ด ให้เสร็จภายใน 15 วันแล้วส่งให้โรงพยาบาลนำไปแสดงในที่เปิดเผยเพื่อให้ประชาชนที่มาใช้บริการของโรงพยบาลสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งในหนึ่งคิวอาร์โค้ด จะเป็นข้อมูลราคายา 1 ชนิดของโรงพยาบาลทุกแห่ง เพื่อให้ประชาชนเปรียบเทียบราคายาชนิดเดียวกันของทุกโรงพยาบาลเอกชนได้ ซึ่งทุกโรงพยาบาลจะติดตั้งภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้ ส่วนโรงพยาบาลใด คิดแพงเกินไป กรมจะมาสอบถาม หากชี้แจงไม่ได้ จะมีความผิดตามกฎหมาย”