รัฐหนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจรในพื้นที่ EEC

  • ประชาชนเข้าถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว
  • เกิดการลงทุนในธุรกิจบริการการแพทย์

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามและสนับสนุนการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร ระบบการแพทย์ฉุกเฉิน ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อพัฒนาระบบการแพทย์ให้สามารถรองรับการบริการได้อย่างรวดเร็วครบวงจร สอดคล้องตามแนวนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรองรับการให้บริการทางสังคม เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาพื้นที่ EEC

สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ร่วมกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สกฉ.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการยกระดับการให้บริการการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อสร้างกลไกบริการด้านการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่ EEC ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด สนับสนุนการเข้าถึงระบบการแพทย์ฉุกเฉินของประชาชนในพื้นที่ EEC ได้อย่างรวดเร็วทั่วถึง ทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ พัฒนาระบบที่มีมาตรฐาน พร้อมด้วยบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ และมีหน่วยปฏิบัติการ สถานพยาบาล รองรับการบริการที่รวดเร็ว ทันเวลา และมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ภายใต้ความร่วมมือดังกล่าวจะสนับสนุนให้เกิดการลงทุนในธุรกิจบริการการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่ EEC ผ่านการพัฒนาให้เกิดต้นแบบการร่วมลงทุน ผลักดันสิทธิประโยชน์สำหรับการลงทุนบริการการแพทย์ฉุกเฉินด้านอากาศยาน ตลอดจนสร้างโมเดลขับเคลื่อนเพื่อสนับสนุนให้เกิดธุรกิจบริการการแพทย์ฉุกเฉินเชิงพาณิชย์ในพื้นที่ EEC ซึ่งทั้งหมดนี้ จะเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนในธุรกิจอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพครบวงจรในพื้นที่ EEC ต่อไป