“รมว.ยุติธรรม” ลุยสั่ง ผบ.เรือนจำทั่วประเทศ สำรวจรายชื่อผู้ต้องขังป่วย เพื่อพิจารณาขออภัยโทษ ลดความแออัดในคุก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 ต.ค.) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้เป็นประธานมอบนโยบายการทำงานให้และผู้บัญชาการเรือนจำและทัณฑสถาน 143 แห่ง​ จากทั่วประเทศ โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันแม้จะมีพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ ลดวันพักโทษ ลดวันต้องโทษแล้ว แต่ยังมีปัญหานักโทษล้นเรือนจำอยู่ โดยมีพื้นที่เรือนนอน 384,815 ตารางเมตร (ตร.ม.) ไม่รวมพื้นที่กักโรค 30,000 ตร.ม. ซึ่งหากพื้นที่ตรงนี้ไม่ได้ใช้ประโยชน์เฝ้าระวังเชื้อไวรัสโควิด-19 จะทำให้นักโทษมีพื้นที่นอนเพิ่มขึ้น จำนวน 25,000 คน จากจำนวนนักโทษที่มีอยู่ทั้งหมดกว่า 340,000 คน ซึ่งผู้ต้องขังเหล่านี้จะต้องดูพฤติกรรมว่าปรับเปลี่ยนได้หรือไม่ 

โดยถ้าเข้าเงื่อนไขก็จะได้การพักโทษตามเงื่อนไข เช่น จำคุกมาแล้ว 1 ใน 3 หรือ 2 ใน 3 สำรวจพบว่ามีจำนวน 60,000 – 70,000 คน และอาจต้องมีการแก้ไขกฎกระทรวงและประมวลกฎหมายยาเสพติด เพื่อให้ระยะเวลาในการถูกจำคุกน้อยลง มีการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย ทั้งการฝึกภาษา ทำบัญชี สร้างอาชีพ หรือทำการเกษตร รวมทั้งการติดอุปกรณ์ติดตามตัวหรือกำไลอีเอ็ม

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการดูแลนักโทษในเรือนจำที่มีพฤติกรรมหลบหนี ให้อยู่ในดุลยพินิจของกรมราชทัณฑ์ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะที่ผ่านมา หากเกิดเหตุการณ์นักโทษแหกเรือนจำ มักจะมีการสั่งย้ายผบ.เรือนจำทำให้เสียกำลังใจ เนื่องจากการที่นักโทษหลบหนีไม่ได้เกิดจากความบกพร่องในการบริหาร 

แต่ในกรณีมีเหตุผู้ต้องขังเสียชีวิตคนเดียวนั้นยอมรับได้ แต่ถ้าเสียชีวิตเป็นกลุ่มใหญ่โดยไม่ทราบสาเหตุผู้บัญชาการเรือนจำจะต้องรับผิดชอบ อย่างไรก็ตาม ขอผู้บัญชาการทุกเรือนจำ จัดทำบัญชีรายชื่อผู้ต้องขังที่มีอาการเจ็บป่วย และไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขการพักโทษ หรือลดวันต้องโทษ รวบรวมรายชื่อว่ามีจำนวนทั้งหมดเท่าไร เพื่อนำมาพิจารณาขอพระราชอภัยโทษ เพื่อญาติของคนเหล่านั้น จะได้รับตัวกลับไปรักษาพยาบาลตามสิทธิ์ต่างฯ

“ในส่วนเรือนจำที่มีสภาพทรุดโทรมเก่า จะต้องมีการปรับปรุงซ่อมแซม เพื่อป้องกันไม่ให้นักโทษฉวยโอกาสหลบหนี ที่ผ่านมาเรือนจำได้มีการสร้างแนวป้องกันไม่ให้นักโทษปืนขึ้นไปบนกำแพง แต่การก่อสร้างดีเกินไปแทนที่เมื่อนักโทษปีนขึ้นไปแล้วกำแพงจะถล่มลงมาทับตัวนักโทษ กลายเป็นอำนวยความสะดวกให้นักโทษหนีง่ายขึ้น ดังนั้นจึงขอให้ผบ.เรือนจำ กลับไปตรวจสอบไม่ให้มีการสร้างผิดวัตถุประสงค์” รมว.ยุติธรรม กล่าว