“พาณิชย์” เผยผลสอบตุนหน้ากากอนามัยส่อไร้ผิด

  • เหตุการบริหารจัดการเป็นไปตามระเบียบราชการ
  • ส่อไร้ช่องโหว่ที่อาจทำให้เกิดขบวนการกักตุน
  • ขณะที่ ”จุรินทร์” สั้งตั้งทีมหาเหตุราคาพุ่งชิ้นละ 4.28 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการกักตุนหน้ากากอนามัย ชุดที่ 2 ที่นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้แต่งตั้งขึ้น โดยมีปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเพื่อนำผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงพาณิชย์ชุดแรก ที่มีนายสุพพัต อ่องแสงคุณ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน มาขยายผลการตรวจสอบเพิ่มเติมนั้น ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นตามเวลาที่กำหนด คือ วันที่ 30 เม..63 และได้เสนอผลการตรวจสอบดังกล่าวต่อนายบุณยฤทธิ์ และนายบุณยฤทธิ์ได้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อแล้ว

สำหรับผลการตรวจสอบ พบว่า กระบวนการบริหารจัดการหน้ากากอนามัยของศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัย ที่กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาและองค์การเภสัช บริหารจัดการเพื่อกระจายหน้ากากอนามัยจากโรงงานผลิต 11 แห่งในประเทศ ไปสู่กลุ่มที่มีความต้องการใช้ เช่น โรงพยาบาล กลุ่มเสี่ยง และประชาชนผ่านร้านค้าต่างๆ นั้น เป็นไปตามระเบียบราชการ

อย่างไรก็ตาม ผลสอบดังกล่าว แย้งกับผลสอบของคณะกรรมการชุดแรก ที่สรุปว่า กระบวนการบริหารจัดการหน้ากากอนามัย มีช่องโหว่ที่อาจทำให้เกิดขบวนการกักตุนหน้ากากอนามัยได้ เพราะแม้กรมการค้าภายใน ส่งเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าโรงงานทั้ง 11 แห่งทุกวัน เพื่อตรวจสอบว่า ในแต่ละวัน โรงงานผลิตได้เท่าไร และส่งไปให้โรงพยาบาล หรือห้างใดบ้าง แต่กำหนดเวลาไปเฝ้าโรงงานตั้งแต่ 07.00-17.00 หลังจากนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่กลับแล้ว ไม่ทราบได้ว่า โรงงานแอบเอาหน้ากากไปขายให้ใครหรือไม่ อย่างไร จึงอาจเป็นช่องโหว่ที่อาจทำให้เกิดขบวนการกักตุนได้ และส่งผลให้ขณะนั้น มีผู้โพสต์ขายหน้ากากในโลกโซเชียลจำนวนมาก ทั้งๆ ที่ประชาชนหาซื้อยากและราคาแพงมาก

สำหรับการตั้งคณะกรรมการทั้ง 2 ชุดนั้น สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ประชาชนเดือดร้อนจากการหาซื้อหน้ากากอนามัยยาก และราคาแพง แต่กลับมีผู้โพสต์ขายในโลกโซเชียลจำนวนมาก บางรายมีขายตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักล้านชิ้นจึงตั้งข้อสังเกตว่า คนเหล่านี้หาหน้ากากมาจากที่ใด ทั้งๆ ที่ในขณะนั้น กรมการค้าภายใน สั่งให้โรงงานผลิต ส่งทุกชิ้นที่ผลิตได้ให้รัฐ และนำมาซึ่งการที่พลอ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกคำสั่งย้ายนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ไปทำงานที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสั่งให้ตรวจสอบให้เกิดความชัดเจน

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงราคาหน้ากากอนามัยในขณะนี้ ที่กรมการค้าภายใน รายงานต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ว่า โรงงานหน้ากากขึ้นราคาที่ขายหน้ากากให้กับรัฐเป็นชิ้นละ 4.28 บาท จากก่อนหน้านี้ ขายชิ้นละ 2 บาทว่ามีสาเหตุมาจากอะไร และเหตุใดศบค.ได้อนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย ซื้อในราคาดังกล่าว เพื่อแจกจ่ายให้โรงพยาบาล และกลุ่มเสี่ยงในจังหวัดต่างๆ