พาณิชย์เปิดแผนดันส่งออกผลไม้สด-แปรรูปไทยปี 64

.มีทั้งจัดกิจกรรมเจรจาการค้าออนไลน์-จับมือห้างจัดโปรโมชัน

.เปิดตัว “มะม่วงมหาชนก” ครั้งแรกในเกาหลีใต้เชื่อฮิตแน่นอน 

.จับมือภาคเอกชนออกมาตรการป้องกันปนเปื้อนโควิด-19

นายวิทยากร มณีเนตร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 64 ได้วางแผนจัดโครงการและกิจกรรมเพื่อเร่งการส่งออกผลไม้ตลอดทั้งปี เพื่อผลักดันให้การส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ซึ่งมีทั้งโครงการจับคู่เจรจาการค้าผ่านระบบออนไลน์ของสินค้าผลไม้สดและแปรรูป ซึ่งตั้งแต่ต้นปี สามารถนัดหมายเจรจาได้แล้ว 392 นัดหมาย มีมูลค่าการซื้อขายรวม 2,200 ล้านบาท และยังมีบันทึกข้อตกลงการซื้อขายผลไม้ส่งออก ระหว่างผู้ซื้อต่างประเทศ และผู้ขายของไทย รวมมูลค่า 1,287 ล้านบาท 

นอกจากนี้ ยังได้จัดโครงการ “Taste of Thailand 2021” ส่งเสริมการขายผลไม้ไทยในเกาหลีใต้ ร่วมกับห้างฮุนได ที่มี 16 สาขาทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 9 เม.ย.-6 พ.ค.นี้ โดยมีไฮไลท์คือ การเปิดตัว “มะม่วงพันธุ์มหาชนก” เป็นครั้งแรก หลังจากที่เกาหลีใต้อนุญาตให้นำเข้ามะม่วงพันธุ์นี้ได้ตั้งแต่เดือนม.ค.64 คาดว่าจะมีมูลค่าสั่งซื้อประมาณ 22.4 ล้านบาท โดยมะม่วงมหาชนก มีแนวโน้มได้รับความนิยม เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระ มีสารแคโรทีนอยด์ และสารแทนโทไซยานินที่ช่วยต้านโรคมะเร็ง และ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ 

ขณะเดียวกัน จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายผลไม้ไทยในญี่ปุ่น ร่วมกับห้างสรรพสินค้าแลซูเปอร์มาร์เก็ต AEON, Donki, Itoyokado Store และ Beisia 150 สาขา ในเมืองรองที่มีศักยภาพ ระหว่างเดือนเม.ย.-ส.ค.64 คาดจะมีมูลค่าสั่งซื้อประมาณ 90 ล้านบาท และจัดงาน Thai Fruits Golden Months ในห้างสรรพสินค้า และซูเปอร์มาร์เก็ตในจีน ตามเมืองที่สำคัญอย่าง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว คุนหมิง และเมืองใหม่ๆ ที่เป็นตลาดศักยภาพ เช่น ฉางซา ฉงชิ่ง หนานชาง รวม 13 เมือง จำนวน 14 ครั้ง โดย จะเริ่มดำเนินเดือนก.ค.นี้ เป็นต้นไป  

“ในการป้องกันการปนเปื้อนของโควิด-19 ในผลไม้ไทยนั้น กรมได้ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการส่งออกทุเรียน มังคุดแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ประกอบการค้าผลไม้ยุคใหม่ และสมาคมทุเรียนไทย รวมถึงกลุ่มผู้ส่งออกผลไม้ในภาคตะวันออก ส่งเสริมมาตรการป้องกันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โดยให้ความสำคัญตั้งแต่การเก็บทุเรียนจากสวนที่มีมาตรฐาน GAP ขนส่งไปยังล้งที่มีมาตรฐาน GMP การฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่อุโมงค์พ่นยา ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัด และรับใบรับรองจากทั้ง 3 สมาคม ซึ่งมาตรการป้องกันดังกล่าว ได้มีการเผยแพร่เป็นภาษาต่างๆ เช่น อังกฤษ จีน เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้นำเข้าในต่างประเทศ” 

นายวิทยากร กล่าวต่อว่า จากกิจกรรมดังกล่าว มั่นใจว่า จะช่วยผลักดันให้การส่งออกผลไม้ไทยในปีนี้เพิ่มขึ้นได้แน่นอน โดยในช่วง 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.) ปีนี้ สามารีถส่งออกได้แล้ว  240,637 ตัน มูลค่า 11,708.37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 109.70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน