พาณิชย์เตรียมเพิ่มรายการสินคาลดราคาขาย

  • หวังบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนช่วงโควิด-19
  • ล่าสุดคุยผู้ผลิตสินค้ารายใหม่ให้ร่วมโครงการ
  • หลังเริ่มลดราคาขายไปแล้วทั่วประเทศตั้งแต่16เม.ย.

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมท็อป มาร์เก็ต ในห้างเซ็นทรัล ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อติดตามโครงการความร่วมมือระบายสินค้าเกษตร-ผลไม้ และติดตาม “โครงการพาณิชย์ลดราคาเพื่อประชาชน” ที่นำสินค้า 6 กลุ่ม 72 รายการ มาลดราคาขายตั้งแต่ 5-58% เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.-30 มิ.ย.63 ว่า การลดราคาดังกล่าว ถือว่า เป็นการนำร่อง และเป็นล็อตแรก ขณะนี้ กรมการค้าภาย อยู่ระหว่างประสานกับภาคเอกชนรายใหม่ๆ ที่จะเข้าร่วมโครงการดังกล่าว คาดว่า จะทราบผลภายในสัปดาห์นี้

“สัปดาห์นี้ จะทราบว่า มีเอกชนรายใดจะเข้าร่วมโครงการล็อตที่ 2 และจะมีสินค้าอะไรมาลดราคาเพิ่มเติม เพื่อลดค่าครองชีพ และบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในช่วงการระบาดของโควิด-19 จากขณะนี้ ได้ลดราคาแล้ว 6 หมวด ทั้งหมวดอาหารเครื่องดื่ม หมวดอาหารปรุงสำเร็จรูป หมวดแช่แข็ง หมวดซอสปรุงรส หมวดของใช้ในชีวิตประจำวัน หมวดผลิตภัณฑ์ซักล้าง และหมวดผลิตภัณฑ์ชำระร่างกาย”

ส่วนการติดตามโครงการความร่วมมือระบายสินค้าเกษตรและผลไม้นั้น เป็นการมาติดตามความร่วมมือที่เกิดขึ้นจากการทำบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) เมื่อวันที่ 9 มี.ค.63 ที่ห้างโมเดิร์นเทรด ทั้งบิ๊กซี, เทสโก้ โลตัส, เดอะมอลล์, แมคโคร และท็อปส์ มาร์เก็ต ได้ให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการเป็นแหล่งระบายผลไม้ให้กับเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ซึ่งได้ทำสัญญากว่า 40 สัญญา ช่วยให้ขายผลไม้จากเกษตรทั่วประเทศ เช่น จากจังหวัดเชียงใหม่ ลําพูน น่าน สุโขทัย ตราด จันทบุรี รวมผลไม้ 9 ชนิด ได้แก่ ส้มเขียวหวาน ลําไย ลิ้นจี่ ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง สละ และสับปะรด คิดเป็นปริมาณ 16,700 ตัน มูลราคา 762 ล้านบาท

“เวลานี้จำเป็นต้องเร่งทำเป็นพิเศษ คือ ผลไม้ ซึ่งผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดแล้ว และจะออกสู่ตลาดมากขึ้นในช่วง 3-4 เดือนถัดจากนี้ไป แต่ในช่วงที่โควิด-19 ระบาด ทำให้ผลไม้ในสัดส่วนมากถึง 60% ไม่สามารถส่งออกได้ จึงต้องปรับมาขายตลาดในประเทศบางส่วน เพื่อช่วยชาวสวน ซึ่งจากนี้จะเน้นทั้งการขายออฟไลน์ และออนไลน์”