พาณิชย์ย้ำใช้ยันต์ “หลวงพ่อคูณ” ต้องขออนุญาตก่อน

  • ผ้ายันต์รูปหลวงพ่อคูณถือเป็นงานศิลปกรรมอันมีลิขสิทธิ์ 
  • ใครจะใช้เชิงพาณิชย์ต้องขออนุญาต “วัดบ้านไร่” ก่อน 
  • ชี้อาจละเมิดลิขสิทธิ์ผิดกฎหมายแนะไกล่เกลี่ยข้อพิพาทออนไลน์ 

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกระแสข่าวในสื่อสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ Supreme แบรนด์สินค้าแฟชั่นชื่อดัง เปิดตัวคอลเล็กชั่น Spring/Summer 2021 โดยใช้ยันต์รูปหลวงพ่อคูณ เกจิชื่อดังวัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา ไปสกรีนบนเสื้อ และเกรงจะละเมิดลิขสิทธิ์ว่า ตามกฎหมายลิขสิทธิ์ รูปหลวงพ่อคูณในผ้ายันต์ ถือเป็นงานศิลปกรรม และจัดเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ประเภทหนึ่ง โดยผู้สร้างสรรค์จะได้รับความคุ้มครองทันทีเมื่อสร้างสรรค์ผลงานขึ้น ซึ่งกฎหมายจะให้สิทธิเจ้าของลิขสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว เช่น ทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่ต่อสาธารณะ หรืออนุญาตให้ผู้อื่นนำงานไปใช้ประโยชน์ เป็นต้น ดังนั้น การกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งกับงานอันมีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต อาจเข้าข่ายเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ได้ 

 “จากการตรวจสอบในฐานข้อมูลลิขสิทธิ์ของกรม พบว่า มีผู้มายื่นแจ้งข้อมูลงานลิขสิทธิ์เกี่ยวกับหลวงพ่อคูณไว้ 21 รายการ ประกอบด้วย ผลงานเพลง 15 รายการ งานวรรณกรรม 1 รายการ (หนังสือเจาะลึกข้อมูลเหรียญรุ่นพิเศษ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ ปี 2517) งานโสตทัศนวัสดุ 1 รายการ (สารคดีเรื่องแรงศรัทธาแด่หลวงพ่อคูณ) และงานศิลปกรรม 4 รายการ ได้แก่ รูปปั้น รูปหล่อ เหรียญ โดยไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับผ้ายันต์รูปหลวงพ่อคูณลักษณะดังกล่าว หากวัดบ้านไร่ เป็นผู้จัดทำผ้ายันต์รูปหลวงพ่อคูณนี้ขึ้นมา โดยมีหลักฐานยืนยันการสร้างสรรค์งานลิขสิทธิ์นี้ ก็จะได้รับความคุ้มครองเป็นระยะเวลา 50 ปี นับตั้งแต่วันที่สร้างสรรค์ขึ้น ดังนั้น หากมีผู้นำยันต์ดังกล่าวไปใช้ ก็ต้องขออนุญาตจากวัดบ้านไร่ด้วย”  

นายวุฒิไกร กล่าวต่อว่า การพิจารณาว่ากรณีใดๆ จะเข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์หรือไม่ อาจต้องพิจารณาในรายละเอียดข้อเท็จจริงเป็นรายกรณีไป อย่างไรก็ดี การนำงานลิขสิทธิ์มาประยุกต์ใช้ หรือสร้างสรรค์เป็นผลงานใหม่ๆ  สามารถทำได้ โดยสามารถเจรจาขออนุญาตใช้สิทธิ หรือทำการตกลงเพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกัน ในกรณีหากมีข้อพิพาทด้านทรัพย์สินทางปัญญาเกิดขึ้น กรมมีบริการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทด้านทรัพย์สินทางปัญญาออนไลน์ เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการแก้ปัญหาและยุติข้อพิพาทโดยไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการของศาล สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ipthailand.go.th หรือติดต่อกองกฎหมาย กรม โทร. 02-547-5029 ในวันและเวลาราชการ