“พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ” แจงกมธ.ไม่ได้เลือกปฎิบัติ

  • เมื่อเห็นสำนวนแล้วไม่มีสิทธิ์สั่งดำเนินคดี
  • ยกคำพ่อสอนให้เป็นคนดีมาชี้แจงด้วย
  • รู้สึกตกใจ ว่า ทำไมกลับคำง่ายไม่เป็นหลักของตนเอง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค.2563 มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.)การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน ร่วมกับ กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชน และกองทุน ที่มีนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน ได้ร่วมกันเป็นประธานการประชุม กรณีได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องในการสั่งไม่ฟ้องคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส มาชี้แจงต่อกมธ. โดยพล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวชี้แจงต่อกมธ.ด้วยการยกคำสอนของนายชัย ชิดชอบ อดีตประธานรัฐสภา ผู้เป็นบิดาได้สอนเสมอมาว่า นายชัย สอนตนเองว่า ให้เป็นคนดี

ส่วนอุดมคติที่ตำรวจทุกคนต้องยึดถือปฏิบัติเพื่ออำนวยความยุติธรรม โดยเฉพาะความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และรัฐธรรมนูญ พล.ต.ท.เพิ่มพูน กล่าวต่อว่า สิ่งเหล่านี้ หากตำรวจยึดถือปฏิบัติจะไม่มีเหตุการณ์ เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น พร้อมยืนยันว่า หลักคิดของตน คือจะทำในสิ่งที่ถูกต้องตามหลักของกฎหมาย ขอยืนยันว่า ตนเองไม่ได้เลือกปฏิบัติ คนที่จะสั่งตนได้มีเพียงคนเดียว คือ นายชัย ชิดชอบ ผู้เป็นบิดา

พล.ต.ท.เพิ่มพูน กล่าวชี้แจงต่อว่า ขอบเขตอำนาจหน้าที่ของตนเองต่อกมธ. พร้อมระบุว่า หลังจากตนเห็นสำนวนแล้วไม่มีสิทธิ์สั่งดำเนินการให้เป็นอย่างอื่นได้ จึงต้องเห็นชอบตามที่ผู้ตรวจสำนวนเสนอ

“ยอมรับว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะดูสำนวนอย่างละเอียดทุกหน้า ส่วนข้อถกเถียงเรื่องความเร็วไม่ตรงกันที่ได้รับฟังจากที่ประชุมกมธ.วันนี้ก็จะนำเสนอต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพิจารณาว่าจะหาข้อพิสูจน์อย่างไร ยอมรับว่า เมื่อได้ฟังการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ตกใจว่า ทำไมกลับคำง่ายไม่เป็นหลักของตนเอง คนที่มีอำนาจหรือเงินมหาศาล ไม่น่าจะสั่งเราได้ ยืนยันว่า จะปรับปรุงวิธีการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา”

ทั้งนี้พล.ต.ท.เพิ่มพูน กล่าวทิ้งท้ายว่า “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ใครทำอะไรสิ่งใดก็ได้รับสิ่งนั้น คนในตระกูลสอนผมมานานแล้ว”