พลังมวลชน… “ประธานาธิบดีโกตาพญา ราชปักษา” ศรีลังกา ยื่นหนังสือลาออกเป็นทางการแล้ว

  • พบยื่นหนังสือลาออกกับประธานรัฐสภา เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังเดินทางกับสายการบินแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย ไปสิงคโปร์
  • ด้านสิงคโปร์ ลั่นการเข้าประเทศของอดีตผู้นำศรีลังกา เป็นการมาส่วนตัว ยันไม่ได้ยื่นเรื่องขอลี้ภัย
  • เผยนายกฯศรีลังกา ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ และไม่ชัดว่ามีผลบังคับใช้นานเท่าใด

วันนี้ (15 ก.ค.65) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา ว่าสภานิติบัญญัติแห่งชาติของศรีลังกา ออกแถลงการณ์ ว่าประธานาธิบดีโกตาพญา ราชปักษา ยื่นหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการ ต่อนายมหินทายาปา อาเบย์วาร์เดนา ประธานรัฐสภาแล้ว เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังเดินทางด้วยเที่ยวบินพาณิชย์ของซาอุเดีย สายการบินแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย ออกจากมัลดีฟส์มายังสิงคโปร์

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของสิงคโปร์ออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการเข้าประเทศของราชปักษา “เป็นการเยือนส่วนตัว” และยืนยันว่า อดีตผู้นำศรีลังกาไม่ได้ยื่นเรื่องขอลี้ภัยที่นี่ 

ด้านกระทรวงการต่างประเทศมัลดีฟส์ออกแถลงการณ์ว่า อนุญาต “ด้วยเหตุผลทางการทูต” ให้เครื่องบินลำเลียงของกองทัพศรีลังกานำราชปักษา ภริยา และเจ้าหน้าที่อารักขาอีก 2 คน มาส่งที่กรุงมาเลเพื่อรอเปลี่ยนเที่ยวบิน

ทั้งนี้ ราชปักษาหลบหนีออกจากประเทศศรีลังกา เมื่อวันพุธ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อหลบหนีจากการลุกฮือต่อต้านของประชาชน และความเสี่ยงของการถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย จากความล้มเหลวในการบริหารประเทศ และสถานการณ์ประท้วงขับไล่รัฐบาลที่ทวีความรุนแรง เป็นการยึดทำเนียบประธานาธิบดี ตามด้วยการยึดทำเนียบนายกรัฐมนตรี ของนายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห ซึ่งตอนนี้อยู่ในฐานะรักษาการประธานาธิบดีด้วย

ด้านวิกรมสิงเห ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วศรีลังกา และบังคับใช้เคอร์ฟิวครอบคลุมจังหวัดเวสเทิร์น ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของกรุงโคลัมโบ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่า คำสั่งทั้งหมดจะมีผลบังคับใช้นานเท่าใด 

ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประท้วงยุติการยึดครองทำเนียบ และส่งมอบพื้นที่ให้กองทัพและตำรวจเข้ามาดูแลแล้ว เพื่อเฉลิมฉลองการลาออกของราชปักษา แต่ยืนยันว่า “การต่อสู้ยังไม่สิ้นสุดเท่านี้”

ส่วนนายมหินทา ราชปักษา อดีตประธานาธิบดีและอดีตนายกรัฐมนตรีศรีลังกา ยืนยันว่าจะไม่เดินทางออกไปลี้ภัยในต่างประเทศ เพื่อหลบหนีจากการลุกฮือต่อต้านของประชาชน พร้อมทั้งแสดงความเสียใจที่บ้านเมืองต้องเผชิญกับวิกฤตร้ายแรง