ผู้ช่วยผบ.ตร.​นำทีมยึดยาบ้า-ยาไอซ์- ยาอี รวมทรัพย์สิน 108 ล้านบาท

  • อาศัยช่วงแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นช่องว่างขนส่งของผิดกฎหมาย  
  • ขายยาเสพติดผ่านทางช่องทางออนไลน์ 
  • เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสกัดกั้นเเละป้องกัน ตัดวงจรการค้ายาเสพติด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 5  พ.ค. 2563. พล.ต.ท. วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมหน่วยงานภายใต้การอำนวยการกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. แถลงข่าวผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญ ที่ลักลอบซื้อขายยาเสพติดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยสามารถตรวจยึดของกลางยาเสพติดและทรัพย์สินหลายรายการ อาทิ ยาบ้ากว่า 1.2 ล้านเม็ด , ไอซ์ 130 กิโลกรัม , ยาอี 6,000 เม็ด กัญชา 200 กิโลกรัม และทรัพย์สินต่างอื่นรวมกว่า 180 ล้านบาท

โดยคดีน่าสนใจ คือ การจับกุมนายชัยวัฒน์ คำตรง อายุ 18 ปี หน้าที่ทำการนิติบุคคลคอนโดแห่งหนึ่ง ในอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ขณะมารับกล่องพัสดุต้องสงสัยที่คอนโดฯย่านเมืองทองธานี พบว่าเป็นยาอีจำนวน 6,000 เม็ด , อาวุธปืน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน  ซึ่งก่อนหน้านี้ชุดสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหามักสั่งยาอีมาจากประเทศเนเธอร์แลนด์ผ่านทางดาร์กเว็บ โดยระบุจุดส่ง 2 จุดเป็นที่คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี เเละย่านรัตนาธิเบศร์ เมื่อไปรับยาจะนำไปเก็บไว้ให้ลูกน้องของนาายชัยวัฒน์ 3 – 4 คน เเพ็คส่งลูกค้าที่คอนโดฯย่านแคราย จากนั้นจะนำส่งลูกค้าและนักท่องเที่ยวตามสถานบันเทิง  ซึ่งเมื่อชุดสืบสวนเข้าตรวจค้นคอนโดฯทั้ง 3 จุด ยังพบชิ้นส่วนอุปกรณ์ มีทั้งตัวแบบพิมพ์ลายต่างๆ ตัวอัดเเท่งเม็ดยา อยู่ในกล่องพัสดุกระจายเเต่ละสถานที่ 

นายชัยวัฒน์ รับสารภาพว่า ชิ้นส่วนเครื่องจักรที่พบนั้น สั่งมาจากประเทศจีน เพื่อเตรียมมาทดลองอัดเม็ดยาอี พร้อมประทับโลโก้ในลักษณะสร้างเป็นแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งได้ศึกษาวิธีจากอินเตอร์เน็ตพร้อมเซฟรูปและขั้นตอนเก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือ แต่ยังไม่ทันได้เริ่มต้น ก็ถูกจับกุมเสียก่อน นอกจากนี้ยังรับสั่งยาเสพติดจากดาร์กเว็บจากต่างประเทศส่งลูกค้าในไทยตั้งแต่อายุ 14 ปี จนมีฐานลูกค้า และทำต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้  โดยใช้วิธีชำระเงินค่ายาเสพติดผ่านทางระบบบิทคอยด์  และคอนโดมีเนียมทั้ง3 จุดจะถูกเช่าด้วยชื่อของคนอื่นที่ไม่ใช่ชื่อตัวเองเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตามตัว 

พลตำรวจโทวิสนุ เปิดเผยว่า ช่วงที่มีการแพทยระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้พ่อค้ายาเสพติดขนส่งยาเสพติดลำบากมากขึ้น เพราะมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนในช่วงที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเคอร์ฟิว จากที่เคยใช้คนและยานพาหนะขนยาเสพติด กอล์ฟเปลี่ยนมาใช้วิธีการส่งเป็นพัสดุ โดยมีการบรรจุพียห่อให้ทางบริษัทรับส่งพัสดุตรวจสอบยากยิ่งขึ้น ซึ่งตำรวจก็ได้ประสานความร่วมมือไปยังบริษัทขนส่งพัสดุต่างๆ เพื่อร่วมการสกัดกั้นการส่งยาเสพติดในลักษณะนี้ จนสามารถจับกุมได้หลายราย

ส่วนกรณีที่ ป.ป.ส. ออกมาระบุว่า ในกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดเริ่มมีการใช้สกุลเงินดิจิทัลแทนเงินสดนั้น จากการตรวจสอบพบว่าสกุลเงินดิจิทัลยังไม่เป็นที่นิยมในการซื้อขายยาเสพติดในประเทศไทยเเละประเทศเพื่อนบ้าน ยังคงใช้เงินสดในการโอนผ่านธนาคารมากกว่า แต่ตำรวจเองก็ยังคงเฝ้าสังเกตการณ์และดูพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้อยากให้พ่อเเม่สังเกตบุตรหลานตัวเองในการเล่นสื่อโซเชียล เพราะอาจจะเข้าถึงเเละถูกชักชวนจากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดออนไลน์ 

สำหรับการจับกุมกลุ่มผู้จำหน่ายยาเสพติดครั้งนี้ส่วนใหญ่จะขายยาเสพติดผ่านทางช่องทางออนไลน์ ทั้งทางเฟซบุ๊ค และ ทวิตเตอร์  อาศัยช่วงแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นช่องว่างขนส่งของผิดกฎหมาย  จึงต้องเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสกัดกั้นเเละป้องกัน ตัดวงจรการค้ายาเสพติด

นายกาหลง ทรัพย์สอาด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานปฏิบัติการ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ซึ่ง ได้เข้าร่วมงการแถลงข่าวดังกล่าวด้วย กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย มีมาตรการป้องกันการลักลอบฝากส่งยาเสพติดตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับมาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเข้มงวด หากพบผู้ใช้บริการฝ่าฝืนส่งยาเสพติด หรือสิ่งของผิดกฎหมายอื่นๆ ผ่านเส้นทางไปรษณีย์ ปณท พร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบและหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป