ผบ.ทบ.รับร่างกายวันนี้ไม่ฟิตเหตุเกิดกราดยิงที่โคราช

  • ผบ.ทบ.เผยหลังทดสอบร่างกายร่างกายไม่ฟิต
  • รับร้องไห้ระหว่างแถลงข่าวเพราะเป็นคนอ่อนไหว
  • ครอบครัวปิดโซเชียลหนี หวั่นผลกระทบ

พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชาระดับสูง นำกำลังพลทดสอบร่างกายประจำปี 2563 ครั้งที่ 1 บริเวณสนามหญ้าด้านหน้ากองบัญชาการกองทัพบก โดยดันพื้น 33 ครั้ง ผ่านร้อยละ77 ลุกนั่ง 60 ครั้ง ร้อยละ94 และวิ่งระยะ 2 กม. ซึ่งถือผ่านเกณฑ์การทดสอบร่างในสถานี

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวภายหลังการทดสอบร่างกาย ผู้บัญชาการทหารบกว่า วันนี้(12 ก.พ.)ร่างกายไม่เต็มร้อย เพราะไม่ได้นอนติดต่อกันมา 3 วันแล้ว ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่ จ.นครราชสีมา แต่หลังจากได้แถลงข่าวแล้วรู้สึกโล่งใจและสบายใจที่ได้ชี้แจง แม้โซเชียลจะยังวิจารณ์อยู่ก็ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่สามารถห้ามใครได้ ขอบคุณสื่อมวลชนที่ป้อนคำถามอย่างระมัดระวัง ไม่โยงเข้าประเด็นการเมือง เหตุการณ์ครั้งนี้ควรทำให้คนไทยได้กลับมารักใคร่ สามัคคีกลมเกลียวกัน อย่ามุ่งชมว่าคนนั้นดี คนนี้ไม่ดี หากใครไม่ดีก็ตักเตือนกัน

“หลังจากนี้ผมจะเดินหน้าแก้ไขเรื่องภายในกองทัพบก ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะอดีตผู้บัญชาการทหารบกมีความห่วงใยและบอกว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องแก้ไขให้ทันกับยุคสมัย อย่างศูนย์คอลเซ็นเตอร์ ที่คาดว่าจะเปิดดำเนินการภายในวันจันทร์ที่ 17 ก.พ.นี้ เพื่อให้ทหารทุกระดับชั้น สามารถร้องเรียนความไม่เป็นธรรมเข้ามาได้ โดยแจ้งชื่อแสดงตนและข้อมูลที่เป็นความจริง ซึ่งข้อมูลจะถูกเก็บเป็นความลับ แต่หากพบว่าให้ข้อมูลเท็จหรือแอบอ้าง จะถูกดำเนินการอย่างเด็ดขาด”

ส่วนกรณีที่จะลงนามร่วมกับกระทรวงการคลังใช้ที่ราชพัสดุเป็นโครงการสวัสดิการเชิงพาณิชย์ โดยนำเงินและรายได้กลับเข้าสู่กระทรวงการคลัง พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ข้อสรุปแล้วว่าจะดำเนินการในพื้นที่ใดบ้าง เช่น พื้นที่โรงแรมที่หาดสวนสนประดิพัทธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ซึ่งอาจจะให้เอกชนเข้ามาช่วยบริหารจัดการ ยืนยันว่าจะดำเนินการด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ แม้จะมีผู้ได้รับผลกระทบบ้าง แต่รับปากแล้วว่าจะรับผิดชอบและแก้ไขให้ดีที่สุดก่อนเกษียณราชการ  ซึ่งการดำเนินการนี้ไมเกี่ยวกับกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เรียกร้องให้ปฏิรูปกองทัพ 

ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า กองทัพและตนเป็นเป้าหมาย เพราะฉะนั้นจะต้องทำตัวเป็นตัวอย่างไม่ใช่บังคับแต่ผู้อื่น และต้องหมั่นพัฒนาความรู้ โดยเฉพาะด้านภาษาให้ทันต่อต่างประเทศ โดยเปลี่ยนให้ระดับผู้บังคับบัญชาไปสอบ TOEIC เพื่อวัดระดับภาษาอังกฤษให้ได้มาตรฐาน ซึ่งถือเป็นการพัฒนาระดับผู้พันขึ้นไป

ขณะเดียวกัน เตรียมรื้อระบบอุปถัมภ์ทั้งหมด หากพบการฝากแบบไม่ผ่านระบบจะดำเนินการโดยไม่ไว้หน้าใคร ไม่สนว่าจะเป็นคนของใคร ค่ายไหน ต้องจัดการทั้งคนที่มาฝากและคนรับฝากด้วย เพราะทหารมีจำนวนมาก แต่ถ้าไม่ดีก็ต้องให้ออกไป

“ส่วนที่ร้องไห้ระหว่างแถลงข่าวเมื่อวาน(11 ก.พ.) ยอมรับว่าผมเป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหว สิ่งที่เสียใจมากที่สุดคือมีพลทหารที่ปฎิบัติหน้าที่เสียชีวิต แต่กลับไม่มีใครกล่าวถึง แล้วพุ่งเป้าว่ากองทัพหละหลวม คนทำงานด้วยกันทุกวัน ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดเหตุขึ้น เวลานี้คนรอบข้างผม ทั้งภรรยาและลูกต้องปิดโซเชียลไปหมด เพื่อป้องกันผลกระทบที่สืบเนื่องมาจากผม” ผู้บัญชาการทหารบก กล่าว