ป.ป.ช.จี้ “กนกวรรณ-สุนทร”รายงานตัวด่วนก่อนเจอหมายจับ

ป.ป.ช.ชี้มูล “กนกวรรณ-สุนทร” พร้อมพวกผิดทั้งอาญาและจริยธรรม ฐานออกโฉนดที่ดินทับอุทยานเขาใหญ่ – เขตป่าไม้ถาวร จีรายงานตัวอัยการภายในวันนี้ จนท.อยู่ระหว่างออกหมายจับ ขณะเจ้าตัวปฏิเสธแจงรายละเอียด ขอบคุณความห่วงใย

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ในฐษนะโฆษกสำนักงานป.ป.ช. แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลนายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปราจีนบุรี และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แกนนำพรรคภูมิใจไทยกับพวก กรณีบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในเขต จ.ปราจีนบุรี โดยป.ป.ช.สั่งสอบข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ที่ดินและบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินที่ตำบลเนินหอม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวว่า นางกนกวรรณและนายสุนทรวิลาวัลย์นำเดินสำรวจ รวมทั้งเป็นผู้ขอออกโฉนดเมื่อปี 2545 เป็นการออกโฉนด 2 แปลงให้กับนางกนกวรรณ ศรีจันทร์งามหรือวิลาวัลย์ และนายสุนทร วิลาวัลย์เนื้อที่ 27 ไร่ 2 งาน 54 .5 ตารางวาและให้น.ส.น้อย ตุ้มพันธฺ เนื้อที่ 27 ตารางวา 1 งาน 71 ตารางวา และอ้างว่าโฉนดดังกล่าวซื้อต่อจากผู้ครอบครองมาก่อน แต่จากการตรวจสอบพบเป็นการแจ้งเท็จ ไม่ได้ซื้อขายจริง และพบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นป่ามาโดยตลอด ได้ทำการเกษตร โดยใช้ภาพถ่ายทางอากาศปี 2546 และยังปรากฏข้อเท็จจริงว่าแนวเขตป่าไม้ถาวรป่าเขาใหญ่ ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ตั้งแต่วันที่  22 กันยายน 2513

นายนิวัติไชย กล่าวว่า คณะกรรมการป.ป.ช.พิจารณาแล้วว่าเห็นว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้เกี่ยวข้องเป็นการกระทำผิดกฎหมายอาญามาตรา 151 และมาตรา 83 ซึ่งปัจจุบันอัยการสูงสุดมีคำสั่งดำเนินคดีอาญาฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด 10 คน รวมทั้งนางกนกวรรณและนายสุนทรเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2565 และให้แจ้งผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 10 รายรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภายในวันนี้(9 มิ.ย.) เพื่อยืนฟ้องคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติไม่ชอบภาค 2 ซึ่งได้รับรายงาน ยังมีอีกคนไม่ได้ไปรายงานตัว รวมทั้งนางกนกวรรณและนายสุนทรด้วย จึงต้องขอให้ไปรายงานตัว เพราะขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการออกหมายจับ 

“คณะกรรมการป.ป.ช. ยังมีมติชี้มูลความผิดนางกนกวรรณ ฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงจากกรณีดังกล่าวด้วย เนื่องจากดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี โดยในส่วนของโทษฝ่าฝืนจริยธรรม คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะส่งศาลฎีกาพิจารณาเพิกถอนออกจากตำแหน่งด้วย อย่างไรก็ตาม คดีของนางกนกวรรณแตกต่างจากกรณีน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ที่ถูกชี้มูลไปก่อนหน้านี้ เพราะกรณีนี้มันเป็นการครอบครองและ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด ซึ่งต่างจากน.ส.ปารีณาที่เป็นการบุกรุกของเจ้าตัวเท่านั้น” เลขาธิการป.ป.ช. กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางกนกวรรณให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยปฏิเสธชี้แจงรายละเอียดของคดี ระบุเพียงว่า ขณะนี้อยู่ในความดูแลของฝ่ายกฎหมายแล้ว และขอขอบพระคุณทุกความห่วงใย