- “ชัยวัฒน์” นั่งหัวโต๊ะถกคณะทำงานสางค่าโง่ทางด่วน
- ลั่นมี 3แนวทางเลือก ปิดช่องภาครัฐเสียเปรียบ
- เตรียมเสนอ “ศักดิ์สยาม” เคาะวันนี้
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะทำงานแก้ไขข้อพิพาททางด่วนระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม เปิดเผยหลังการประชุมคณะทำงานฯ ว่า ที่ประชุมได้รับฟังข้อมูลทั้งหมดจากทาง กทพ.และทางบีอีเอ็ม ซึ่งทางคณะทำงานฯ ได้พิจารณาจากข้อมูลที่มีโดยจะมีการเสนอทางเลือก3แนวทางเสนอต่อ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม พิจารณาในวันนี้ (27 ส.ค.)
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงคมนาคมว่า สำหรับข้อพิพาทระหว่าง กทพ.และบีอีเอ็ม เกิดจากโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางพิเศษศรีรัช รวมถึงส่วนดี) และทางด่วนสายบางปะอิน – ปากเกร็ด (ทางพิเศษอุดรรัถยา) โดยมีประเด็นข้อพิพาทที่สำคัญ คือ ผลกระทบการสร้างทางแข่งขัน กรณีรัฐก่อสร้างดอนเมืองโทลเวย์ส่วนต่อขยาย ช่วงอนุสรณ์สถาน – รังสิต ซึ่งกระทบต่อรายได้ของผู้รับสัมปทาน และกรณีไม่ปรับขึ้นค่าผ่านทางตามที่ระบุในสัญญา เป็นเหตุให้ผู้รับสัมปทานฟ้องร้อง กทพ. มีมูลค่าข้อพิพาทจาก 2 ประเด็น รวมทั้งประเด็นอื่นๆ จำนวน 137,517 ล้านบาท โดยปัจจุบัน กทพ.และบีอีเอ็มได้เจรจาปรับลดมูลหนี้เหลือ 58,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ทางเลือกที่คณะทำงานฯ เตรียมนำเสนอให้นายศักดิ์สยาม พิจารณา ประกอบด้วย 1. ทางเลือกเดิมจากมติที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ. คือ ขยายระยะเวลาสัมปทาน 3 โครงการ 30 ปี ส่วนอีก 2 แนวทางใหม่ ตามนโยบายของรมว.คมนาคม ได้สั่งการ เช่น แนวทางชดใช้เงินตามที่ศาลตัดสิน แต่ขอให้ทาง กทพ.คำนวณวงเงินที่จะต้องจ่ายในแต่ละปี ว่ามาจากแหล่งใด รวมถึงคำนวณถึงดอกเบี้ยด้วย เนื่องจากต้องการให้ทยอยจ่าย เพื่อไม่กระทบฐานะทางการเงิน
และ อีกแนวทาง คือ ในกรณีไม่จ่ายชดเชย แต่ต่อสัมปทาน เอกชนจะสามารถลดค่าผ่านทางเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเพิ่มเติมได้หรือไม่ พร้อมทั้งต้องคำนวณแบ่งสัดส่วนรายได้กันใหม่ โดยรัฐต้องไม่เสียเปรียบ
